วันที่ 8 ก.พ.2567 เวลา 10.45 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณากระทู้สดเรื่อง ปัญหาการจัดสายรถเมล์ใหม่ที่มีการปรับเลข ของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ถามนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมการขนส่งทางบก ว่าเรื่องนี้ทำให้ประชาชนสับสน ทั้งๆ ที่กรมการขนส่งทางบก เคยทำประชาพิจารณ์แล้ว ประชาชนไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงขอถามว่าทราบหรือไม่ มีการกำหนดหมายเลขสายรถเมล์ใหม่ ซึ่งการจัดโซนแบบนี้ ทิศของแผนที่ ผิด และมั่วมากท่านถูกกรมการขนส่งทางบก หลอกแล้ว อีกทั้งการปฏิรูปรถเมล์กลับทำให้เกิดปัญหา นอกจากนี้ยังมีการลดรอบวิ่ง จึงอยากให้รัฐบาลอุดหนุนรถเมล์และเพิ่มจำนวนรถ ไม่ใช่สนใจแต่รถไฟฟ้า ไม่ทราบรัฐบาล มองคนใช้รถเมล์เป็นพลเมืองชั้นสองหรือไม่อย่างไร
นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า การวิ่งรถนั้นแบ่งเป็นโซนสี โดยภายในโซน เมื่อขึ้นไปแล้วหลงก็จะสามารถกลับมาจุดเดิม ซึ่งเป็นการวิ่งรถกันภายในโซนสีเท่านั้น ส่วนรหัสในการเดินรถยอมรับว่ารัฐบาลเข้ามาทีหลังและพยายามศึกษาและแก้ไข ถ้าเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ ออกมาเป็นอย่างไรคงจะมีคณะกรรมการขนส่งกลางมาดำเนินการ ส่วนการที่จะเปลี่ยนกลับไปกลับมา ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ หรือจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนเข้าใจ คาดว่าไม่เกิน 90 วันจะได้คำตอบ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ รถเมล์ ต่อไปจะเป็นพระเอกในกทม. ที่จะกลายเป็นรถอีวี วันนี้ระบบล้อระบบรางจะสัมพันธ์กัน ต่อไปรถ ขสมก. จะหายไปจากถนนหลายพันคัน เส้นทางการวิ่งก็จะปรับเปลี่ยนหลายเส้นทาง วันนี้รัฐบาลทำงานครึ่งปี พยายามวางแผนนำปัญหาเก่ามาปรับ มาเชื่อมโยงทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ประเทศไทยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งของประเทศไทยโดยเฉพาะขนส่งสาธารณะ ขนส่งมวลชน โดยในต่างจังหวัดเราได้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมาร่วมจัดการเดินรถได้ วันนี้มีการเชื่อมโยงแบบบูรณาการ ต่อไปบทบาท บขส. จะลดลง ถ้ารถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงเสร็จ ส่วนเรื่องหมายเลขตนไม่ได้ยืนยันว่าเราทำถูกหรือทำผิดและไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกด้าน