กิตติศักดิ์" ขู่"นายกฯ-รมต." เบี้ยวแจงซักฟอก จ่อยื่น ปปช. เอาผิดมาตรา157  เสรี"ดักคอรัฐบาลอย่าใช้เทคนิคทางการเมืองยื้อจนปิดสมัยประชุม ภูมิธรรม" ลั่นรัฐบาลไม่คิดหนี  พร้อมตอบทุกประเด็น แย้มกลางมี.ค.หลังนายกฯกลับต่างประเทศเหมาะสุด

    
  ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ในการประชุมวุฒิสภา โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. ได้หารือความคืบหน้าการขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า หลังจากสว.ยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปต่อรัฐบาล 2 วัน ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ได้รับคำตอบจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ว่า นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจไปต่างประเทศ จึงพร้อมมาตอบอภิปรายทั่วไป หลังวันที่ 20 มี.ค.2567 แสดงว่า การมาตอบอภิปรายต่อ สว. เป็นเรื่องรอง ไม่สำคัญเท่าการไปต่างประเทศ ทั้งที่ไม่มีรัฐบาลไหนเชิญไป แต่กลับไปเอง
    
 นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นายกฯ ควรให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติบ้าง ใครจะรับผิดชอบหากเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ได้ มีอยู่ 2 ฝ่ายคือ 1.ประธานวุฒิสภา 2.นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขณะนี้ประธานวุฒิสภายังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ครบถ้วนคือ ยังไม่บรรจุวาระขอเปิดอภิปรายทั่วไปให้เป็นเรื่องเร่งด่วน มัวแต่รอรัฐบาลอยู่ ถ้ารัฐบาลไม่พร้อมแสดงว่า ไม่ต้องตอบ
     
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เดิมสว.ตั้งใจอภิปรายวันที่ 26-27 ก.พ. แต่เนื่องจากวันที่ 26 ก.พ.เป็นวันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 4-5 มี.ค. จึงขอให้ประธานวุฒิสภาเร่งบรรจุวาระเปิดอภิปรายทั่วไปเป็นเรื่องด่วนโดยเร็ว และแจ้งรัฐบาลอีกครั้งว่า สว.ประสงค์เปิดอภิปรายทั่วไป หากรัฐบาลไม่มา ถือเป็นความรับผิดชอบรัฐบาล จะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ จะยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้" นายเฉลิมชัย กล่าว
    
 ขณะที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า การที่ประธานวุฒิสภาจะบรรจุระเบียบวาระเรื่องนี้ได้ ต้องรอรัฐบาลมีมติหรือแจ้งมาว่าพร้อมจะมาเมื่อใด จึงบรรจุระเบียบวาระได้ ยืนยันว่าเมื่อตนได้รับคำร้องขอเปิดอภิปรายทั่วไปจากวุฒิสภา ก็ส่งเรื่องไปให้รัฐบาลทราบอย่างรวดเร็ว รอฟังคำตอบจากรัฐบาลอยู่ กำหนดเวลาอภิปรายที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน ยังรับฟังไม่ได้ ต้องรอฟังจากคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ว่านายกฯ มีคำตอบอย่างไร จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนข้อบังคับได้ การที่สว.กำหนดวันเวลาไว้ คงมีการต่อรองวันเวลาอีกครั้ง แม้ สว.กำหนดวันอภิปรายเดือนก.พ. แต่ถ้าฟังจากข่าวคงไม่ได้ ถ้ารัฐบาลยังไม่ตอบกลับมา จะสอบถามกลับไปใหม่
   
  ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า รัฐบาลจะให้อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 เพียง 1 วัน จะเพียงพอต่อสมาชิกที่จะอภิปรายหรือไม่ ว่า เราขออภิปราย 2 วัน ในช่วงเดือนก.พ. แต่ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการจากรัฐบาลว่าจะอภิปรายวันที่ 18 มี.ค. ส่วนเวลาที่จะใช้ ตนได้แจ้งไปว่า ขอให้ทางวุฒิสภา แจ้งความจำนง ในการขออภิปราย จะมีจำนวนผู้อภิปรายมากน้อยแค่ไหน จะกำหนดเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าจะ 1 วันหรือ 2 วัน ถ้าหากมีเนื้อหา และสว.มีจำนวนมาก ก็ต้องใช้เวลา อภิปราย 2 วัน แต่ก็ต้องไปตกลงกันกับรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามตอนนี้ ได้เริ่มส่งหนังสือแจ้ง ไปยังสว.แล้ว เพื่อให้แสดงความจำนงประเด็นที่จะอภิปราย ซึ่งในวันนี้มีสว.หลายคน แสดงความจำนงมาแล้ว
    
 เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าวันที่ 18 มี.ค.จะไม่ได้อภิปรายใน เสรีกล่าวว่า ก็เป็นห่วงอยู่ เพราะระยะเวลาใกล้จะปิดสมัยประชุมวันที่ 9 เม.ย. ก็หวังว่ารัฐบาลจะไม่ใช้เทคนิคทางการเมือง หรือไม่ใช้วิธีซื้อเวลาในการที่จะให้พ้นจากการอภิปราย เพราะเรื่องเหล่านี้เราพยายามทำความเข้าใจกับรัฐบาลมาตลอดว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับการบริหารของรัฐบาลเอง และยังเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ถ้าอะไรที่สามารถทำได้และสำเร็จไปได้ด้วยดีก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
    
 เมื่อถามว่า หากอภิปรายในเดือนมี.ค.ก็ยังพอรับได้ใช่หรือไม่ เพราะเริ่มมีเสียงของสว.ออกมาแล้วว่านานไป ความสุกงอมของปัญหาอาจจะล่าช้า นายเสรี กล่าวว่า ตนไม่อยากใช้คำว่าซื้อเวลา แต่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เราก็พยายามที่จะให้ประเด็นต่างๆที่เราจะซักถามเพื่อให้คลี่คลาย ถ้าช้าแล้วเป็นประโยชน์ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าซื้อเวลาแล้วยังไม่สามารถทำให้ดีได้ ก็จะเป็นความเสียหายของรัฐบาลเอง
   
  นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 153 ของรัฐบาล ว่า จะอภิปรายในเรื่องที่ประชาชนสงสัย ทั้งเรื่องแจกเงินในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และสิ่งที่พี่น้องประชาชนติดใจสงสัยมากที่สุดคงไม่พ้นเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้รัฐบาลจะยื้อเวลาหรือไม่ และมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปต่างประเทศ อย่าทำอย่างนั้นเลย และไม่อยากกล่าวหาว่าเป็นการหลีกเลี่ยงมาตอบ ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดทั้งนั้น เพราะสว.ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ถ้ารัฐบาลนำโดยนายเศรษฐาปฏิเสธที่จะมาตอบคำถาม เรื่องจะไม่จบง่ายๆ เรื่องจะต้องไปถึง ป.ป.ช. ดังนั้นฝ่ายบริหาร ควรจะให้ความร่วมมือ มาตอบอย่างไรก็ได้ ตามที่มีข้อมูล ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน
     
  "ถ้าหากรัฐบาลพร้อมที่จะมาตอบ คำถามในการอภิปราย ก็จะขอขอบคุณล่วงหน้า แต่อย่าให้เลยเถิดไปจนถึง ขนาดหลีกเลี่ยงไปจนกระทั่งปิดสมัยประชุม เรื่องก็คงไปถึงป.ป.ช.แน่ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เราไม่ประสงค์ที่จะ ใช้ความรุนแรง แต่ถ้าหาก ไม่ให้เกียรติกัน ถ้ามาตอบเรื่องก็จบกันไป แต่ถ้าไม่มารับรองว่าจะมีคนไปยื่นป.ป.ช.ตามมาตรา 157 แน่นอน ส่วนจะยื่นเฉพาะตัวนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรีทางคณะนั้นฝ่ายกฎหมายคงจะพิจารณา แต่ถ้าไม่มาก็อาจจะยื่นยกคณะก็ได้ เพราะรัฐมนตรีจะต้องมาตอบใน 7 กลุ่มที่สว.ตั้งไว้ซักถาม แทบทุกกระทรวง ยืนยันว่า หากยื่นป.ป.ช.จริงก็น่าจะยื่นทั้งคณะ" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่เห็นใจรัฐบาลบ้างหรือ เพราะรัฐบาลบอกว่านายกฯ ทำงานหนักจนถึงขั้นล้มป่วย นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าไม่แข็งแรง ตนว่ากลับบ้านดีกว่า สว.ก็เช่นเดียวกัน ขนาดเจ็บป่วยก็ยังมาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นคุณมาปฏิบัติหน้าที่ 4-5 เดือนแล้ว ร่างกายอ่อนแอ ทำงานไม่ไหว ผมคิดว่ากลับเถอะครับ
    
 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีสว.ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า ได้ประสานกันแล้ว ตอนแรกจะเป็นช่วงต้นหรือกลางเดือน ก.พ. แต่นายกฯติดภารกิจตลอดและต้องเดินทางไปต่างประเทศอีก 10 กว่าวัน หากจำไม่ผิดจะเป็นช่วงเดือนมี.ค. ยืนยันว่ารัฐบาลไม่หนีไปไหน รัฐบาลยินดีไปคุยและรับฟัง การอภิปรายตามมาตรา 153 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการสะท้อนความคิดเห็นสภา หากไม่มีปัญหาเรื่องขั้นตอนรัฐบาลยินดีอยู่แล้วที่จะได้อธิบายถึงมุมมองที่เข้าใจต่างกัน ขอให้สว.ไม่ต้องกังวล รัฐบาลไม่คิดหนี หนีไม่ได้อยู่แล้ว
 
    เมื่อถามว่า กำหนดวันอภิปรายไว้วันที่ 18 มี.ค. ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประมาณกลางเดือนมี.ค. เพราะนายกฯกลับมาจากยุโรปประมาณก่อนวันที่ 10 มี.ค. ส่วนจะอภิปรายกี่วันอยู่ที่เนื้อหา และรัฐบาลเองก็ไม่ได้ห่วงอะไร รัฐบาลทำงานตรงไปตรงมาโปร่งใส และพยายามชี้แจงทุกส่วนให้ประชาชนทราบอยู่แล้ว ถ้าสงสัยอะไรเรายินดีตอบ