วันที่ 6 ก.พ.67 นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.ให้สัมภาษณ์ กับรายการ Politicize บ้าการเมือง ถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตาม ม.153 ของวุฒิสภา ว่า เราต้องสร้างบรรยากาศให้วุฒิสภาเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ โดยเวลานี้แม้จะมีฝ่ายค้านที่เป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราพบว่ายังมีหลายประเด็นที่ไม่ถูกพูดถึงเลย
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลใหญ่เกินไป และฝ่ายค้านกับรัฐบาลคุยกันรู้เรื่อง ต่างแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ไม่กระทำบางเรื่อง จึงทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ฉะนั้นในส่วนของสว.จึงต้องมาเพิ่มเติมและถ่วงดุลในจุดนี้ เพื่อให้ตราชั่งได้สมดุล
เมื่อถามว่า ความจริงแล้วรัฐบาลไม่ได้ต้องการให้สว.เปิดอภิปรายฯ เพราะมีแต่ประเด็นที่สว.ต้องการห้ามรัฐบาล อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงที่สว.จะห้ามทุกเรื่อง อย่างดิจิทัลวอลเล็ต นั้นก็ต้องดูด้วยว่าทำไปแล้วผิดกฎหมายหรือไม่ หรือมีความคุ้มค่าหรือไม่ เศรษฐกิจวิกฤตจริงหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายวางกรอบเอาไว้ให้กู้เมื่อมีความเร่งด่วนจริงๆ นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำจากนักวิชาการซึ่งมีเหตุผล ซึ่งเราอยากช่วยให้รัฐบาลทำสำเร็จ แต่ต้องชอบด้วยกฎหมาย เกิดความคุ้มค่า
นอกจากนี้ในเรื่องของการทำประชามติ ที่จะไปรณรงค์ถามความเห็นประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้วางแนวเอาไว้แล้ว หากสว.ไม่ออกมาเตือนรัฐบาลจะยุ่งต่อไป เพราะจะเกิดความแตกแยกของคนในชาติ สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้เอาไว้ ก็ชัดเจนว่ามีบางพรรคการเมืองบั่นทอนความสำคัญของสถาบัน
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การที่ไปแตะกฎหมาย ม.112 ไม่ได้เพราะศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัยว่ามีการกระทำทีไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้นวิธีที่จะทำให้เรื่องนี้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญเสียเลย ซึ่งรัฐธรรมนูญให้แก้ทีละมาตรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เกรงว่าสว.จะไม่ให้ผ่าน เนื่องจากสว.เองก็กังวลว่าหากแก้รัฐธรรมนูญรื้อหมด สิ่งดีๆที่มีอยู่ก็อาจจะหายไปด้วย