จากกรณี เมื่อเวลา 00.30 วันที่ 6กพ พ.ต.ท.ธนัฐชัย. วงศ์ศรีวิจิตร สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง รับแจ้ง มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต1รายบริเวณวัดหนองคอกหมูหมู่3ตำบลตำขันอำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยองหลังรับแจ้งจึงไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่นิติเวช
ซึ่งในที่เกิดเหตุพบศพพลทหารจิรพนธ์ กัญญาวิมล อายุ21ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่บริเวณด้านหลังศรีษะ1นัดและบริเวณขาขวา 1นัดเสียชีวิตบริเวณหน้าวัดซึ่งตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาดจุด38จำนวน2หัวจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งที่วัดหนองคอกหมูกำลังจัดงานประจำปีระหว่างวันที่1ถึงวันที่5กุมภาพันธ์ คืนเกิดเหตุจึงเป็นคืนสุดท้ายของงาน ภายในงานจัดให้มีมหสพซึ่งชาวบ้านพากันมาทำบุญและเที่ยวชมมหรสพและเมื่อมหรสพเลิกการแสดงแล้ว ชาวบ้านกำลังเดินออกจากบริเวณวัดระหว่างนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้น2นัดทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่นวิ่งหลบหนีกันชุลมุนหลังจากสิ้นเสียงปืนพบร่างพลทหารจิรพนธ์ถูกยิงเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าวัด
หลังเกิดเหตุพ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บ้านค่าย สั่งการให้ พ.ต.ต.ณัช ผันอากาศ สว.สส.สภ.บ้านค่าย เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุซึ่งรู้ตัวว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่หนองคอกหมู ส่วนผู้ตายอยู่พื้นที่ ชากบก จึงประสานญาติของผู้ก่อเหตุ นำตัวนาย จิตรภาณุ (ฟุ๊ค) จันต่อ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่121/3 ม.4 ต.ตาขัน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เข้ามอบตัว พร้อมอาวุธปืน และรถ จยย ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ส่วนคนขี่ จยย ทราบว่า คือนายนภดล (ม่อน)เมฆอรุณ อายุ 18 ปีเศษ อาศัยอยู่พื้นที่ เขต ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว มาสอบสวน ดำเนินคดีแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายม่อนไปเที่ยวงานวัดแล้วมีเรื่องกับกลุ่มนายทอป ที่รุมตีม่อน จนยับ แล้วยังฝากมาถึงพวก คือฟุค จากนั้น ก็นัดมาเครียกัน ที่วัด ขณะที่ ม่อนกับฟุค กำลังขี่ จยย ไปที่วัด ก็ได้ยินเสียงปืน ฟุคจึงยิงสวนไปสองนัด กระสุนถูกผู้เสียชีวิต
ซึ่งนิสัยของ ฟุ๊คผู้ต้องหาเป็นคนใจร้อนแต่ไม่ทำใครก่อนเป็นหัวโจ๊กของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ตำบลตาขัน และอาวุธปืนที่พกมา ก็ซื้อสั่งมาจากออนไลน์ได้2 ปีแล้ว เมื่อมีเรื่องจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ในกลุ่มฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ตายได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มที่กระสุนสาดใส่ทั้งสองนัด จนทำให้เสียชีวิต
สำหรับผู้ตาย เป็นพลทหารสังกัดอยู่ มทบ14 ชลบุรี แต่ประจำการที่ค่าย ศรีโสธร ฉะเชิงเทรา ได้ลาพักมาอยู่กับลูกภรรยาได้3วันก็มาประสบเหตุเสียชีวิต
ตำรวจตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช้เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน โดยนำตัวทั้งสอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถคันก่อเหตุลงมาเพื่อให้ผู้ต้องต้องหาทั้ง 2 ได้ทำแผนดังกล่าวขณะทำแผนทีมข่าวพยายามถามผู้ก่อเหตุพูดเพียงว่าฝ่ายตรงข้ามยิงมาก่อน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาขึ้นรถกลับไป