วันที่  6 ก.พ.67 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.และ พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. ได้มาประชุมติดตามความพร้อมการรองรับเทศกาลตรุษจีน ที่จะถึงนี้  โดยมี พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 พร้อมคณะให้การต้อนรับ 

พล.ต.ต.เชิงรณ  กล่าวว่าตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อดูระบบ ตม.ตามข้อเท็จจริง หลังระบบล่มนานกว่า 9 ชม.จนทำให้ ผู้โดยสารรอรับการตรวจ ตม.ขาเข้า และขาออก สุวรรณภูมิ เกิดความล่าช้า สะสมหนาแน่นระดับวิกฤติ เหตุเกิดเมื่อช่วงปลาย ม.ค.ที่ผ่านมา  บก.ตม.2 ได้จัดเตรียมแผนตรุษจีน หรือ แผนน่านฟ้าเทศกาล 67

ซึ่งมีการเตรียมการ ดังนี้ 1. ด้านกำลังพล ให้งดขาดลา และ จัดกำลังพลเสริมหน้าที่เวรในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น ทั้งนี้ มีการแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ จากหน่วยนอกสังกัด มาดำรงตำแหน่งใน ตม.สนามบิน ราว 60 คน ซึ่งได้จัดให้ลงตรวจขาเข้า ขาออก ซึ่งเป็นจุดแตกหักสำคัญในการตรวจคัดกรองคนเข้าออกประเทศ 2. ด้านเทคโนโลยี ได้ให้ศูนย์เทคโนโลยี สตม.จัดเวร จนท.ผู้เชี่ยวชาญประกบกับ บริษัทที่ดูแลโครงการเพื่อร่วม monitor ระบบ หากมีแนวโน้มขัดข้อง ต้องรีบแก้ไข และแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติดำเนินการตามแผนระบบขัดข้อง หรือ แผน comdown67 ทันที 3. บูรณาการบริหารจัดการ ทั้งการกระจายความหนาแน่นโซนตรวจ ตม.ไปทุกโซน มั้งขาออก และขาเข้า รวมถึงการประสานสายการบินเปิด check in ขาออก ล่วงหน้า 3 ชม. 4. จัดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ รอง ผบก.บัญชาการเหตุการณ์ประจำวัน เพื่อให้การแก้ปัญหา รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ 

โดย พล.ต.ท.อิทธิพล   กล่าวว่าการเดินทางมาในวันนี้เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความพร้อมผ่านระบบประชุมออรไลน์ ด่าน ตม.บ้านประกอบ จ.สงขลา และ สตูล เนื่องจากจะมีปริมาณคนเดินทางเข้าออกจำนวนมาก ในช่วงตรุษจีน

ส่วนในการประชุมครั้งนี้ พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รรท.ผู้บังคับการศูนย์เทคโนฯ สตม.( ผบก.ศท.ตม.) กล่าวถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยี และ ผู้บริหารบริษัท MSC สิทธิผล ซึ่งดูแลระบบ Biometric ได้ยืนยันว่า จะไม่เกิดเหตุขัดข้อง ตรวจช้า หรือล่มอีก โดยได้เปลี่ยนเครื่องลูกข่ายกว่า 200 เครื่อง ให้เสร็จในวันที่ 9 ก.พ.2567 เพื่อให้ตรวจเร็วขึ้น ทันตรุษจีน และเข้าตรวจเยี่ยม จนท.ขาเข้า ขาออก เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง โดยได้ให้กำลังใจแก่ จนท.ในการปฏิบัติงาน และสั่งการให้ ศูนย์เทคโนฯ สตม เร่งประชุมกับบริษัทผู้ดูแลระบบในการปรับปรุง server เพื่อรองรับการบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ในระยะยาว โดยเฉพาะการรองรับระบบ Auto channel ที่ทางการท่าอากาศยานไทย หรือ AOT จะจัดซื้อติดตั้งใน ก.ค.2567 นี้ ตามนโยบายรัฐบาล 

พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.เชิงรณ  กล่าวว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากซบเซาในช่วงเหตุยิงพารากอน จนตอนนี้มีผู้โดยสารจีนเข้าประเทศถึงประมาณ 30,000 คน ส่วนผู้โดยสารโดยภาพรวมเข้าออก ราววันละ 130,000 คน ซึ่งทาง ตม.2 ได้ลดขั้นตอนการเก็บลายนิ้วมือคนไทย ต่างชาติ และเสนอให้มีการปรับแก้การ key เที่ยวบิน เป็นขึ้น show ในระบบแบบอัตโนมัติ