ที่ห้องประชุมโรงแรมสตาร์เวลบาหลี รีสอร์ท อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครราชสีมา นายแพทย์อภิชาต รอดสม รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพชาติ และ ศ(พิเศษ)ดร.นพ.สำเริง แหยงกระโทก คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช) เขตพื้นที่ 9 ร่วมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการความร่วมมือเพื่ออภิบาลระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชนภายใต้บริบทโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนครราชสีมา ตามโครงการ “การศึกษาและพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเสร้างการรับรู้แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ อภิบาลระบบสุขภาพ ท้องถิ่นภายใต้บริบทการถ่ายโอน รพ.สต.ให้แก่ อบจ.” จังหวัดนครราชสีมา
โดยมี เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ ประธาน อสม.และประธานผู้สูงอายุ 32 อำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สังกัด สธ. และ อบจ. จำนวน 348 แห่ง วิทยากรพื้นที่รูปธรรม นักวิจัยและ สมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา รวม 530 คน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง รับฟังสัมมนาเวทีเสวนาความร่วมมือบูรณาการนโยบาย 2 สายงาน 1 สายใจจังหวัดนครราชสีมา ตลอดจนการประชุมเชิงปฏิบัติการ นิทรรศการฯ ในการสร้างความร่วมมือบูรณาการนโยบายด้านสาธารณสุขให้บรรลุผลตามนโยบายรัฐบาลที่กำลังขับเคลื่อนงาน บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่
และร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ให้ความสำคัญกับความร่วมมือบูรณาการนโยบาย “2 สายงาน 1 สายใจ” โดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบปฐมภูมิโฉมใหม่ไร้ต่อ เพื่อประชาชนจังหวัดนครราชสีรมา สุขภาพดีถ้วนหน้าอย่างยั่งยืนดังนี้
ข้อ 1มีการจัดระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิโฉมใหม่ไร้ต่อ ภายใต้รูปแบบ “โรงเรียนเบาหวาน” ร่วมกันอย่าง สร้างสรรค์
ข้อ 2 จัดระบบบริการสุขภาพ ส่งเสริมการลดปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุในมิติสุขภาพ ได้แก่ แว่นสายตา กาย อุปกรณ์ และจัดสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ลดปัญหาข้อเข่าเสื่อม อย่างเป็นรูปธรรม
ข้อ 3 มีส่วนร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ในการร่วมบูรณาการระบบ ดูแลสุขภาพประชาชนแบบองค์รวม ภายใต้นโยบาย 4+1+1 จังหวัดนครราชสีมา ในรูปแบบ “ศูนย์สุขใจใกล้บ้าน” ให้ ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ทั้ง 32 อำเภอ มีประชากรประมาณ 2.6 ล้านคน