ศาลอุทธรณ์ ยืนจำคุก “เพนกวิน-อั๋ว” คนละ 2 เดือน ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คดีก่อม็อบหน้าหอศิลป์ปี 63
ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำ653/2566 ที่พนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องนายพริษร์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิ้น จำเลยที่ 1 และน.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว จำเลยที่ 2 ในความผิดต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน สืบเนื่องจากคดีจากการจัดกิจกรรม #Saveวันเฉลิม ทวงความเป็นธรรมให้กับการบังคับสูญหายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 63
โดยศาลชั้นต้น พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 2 มีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9(2), 18 ประกอบมาตราประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่ายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้ชุมนุมยืนติดกันไม่เว้นระยะห่าง ไม่มีจุดคัดกรอง ไม่มีเจลแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งยังมีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานสอบสวน ที่สั่งให้พิมพ์ลายนิ้วมือ จึงสั่งจำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 2 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่งปรับ 2,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 เดือน และปรับ 12,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี แต่จำเลยทั้ง 2 ขอยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองทุกข้อฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น