ORN กางแผนธุรกิจปี 67 เดินเกมรุก โตแบบ Organic และ Inorganic เปิดโครงการแนวราบ-สูง รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,302 ล้านบาท ลุยขยายโครงการทำเลศักยภาพ และหัวเมืองท่องเที่ยว นำร่องประเดิมจังหวัดภูเก็ต แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โรงเรียนนานาชาติ Mill Hill สัญชาติอังกฤษแห่งแรกในเชียงใหม่ ผุดแพลตฟอร์ม PROPSQUARED แหล่งรวมทรัพย์สำหรับนายหน้าอสังหาฯครบวงจร และ Life Style Market ศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) (ORN) กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทมุ่งเน้นการเติบโบทั้ง Organic และ Inorganic เพื่อขยายธุรกิจหลักและสร้างโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ให้กับบริษัทฯ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนของธุรกิจหลัก บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯรวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,302 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,379 ล้านบาท และ แนวสูง 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,923 ล้านบาท ได้แก่
1.ORNSIRIN VILLE (TARUA) บ้านแฝดเชิงพาณิชย์ สไตล์โมเดิร์น โฮมมี่ ติดถนนวงแหวนรอบนอก มูลค่าโครงการ 337 ล้าบาท เตรียมเปิดตัวภายใน ไตรมาส 1 ปี 67
2.URBAN MYX (Banden-Rajavej) Shophouse สไตล์โมเดิร์น โฮมมี่แบบ Multi Purpose ทำเลใจกลางเมือง มูลค่าโครงการ 56 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปี 67
3. ORNSIRIN VILLE (Sansai) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด สไตล์ Country Classic บรรยากาศยุโรป ทำเลใกล้รวมโชคมอลล์ และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มูลค่าโครงการ 886 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปี 67
4.HABITAT (Ruamchok) บ้านหรูสไตล์ French Eclectic ทำเลใกล้รวมโชคมอลล์ และศูนย์ราชการ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายใน ไตรมาส 3 ปี 67
5.ARISE (Sansai) คอนโดมิเนียม Low – Rise คอนโด Pet Friendly แห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้เซ็นทรัลเฟสติวัล ตกแต่งพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการ 1,146 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 3 ปี 67
นอกจากนี้ บริษัทขยายโครงการสู่ภูมิภาคอื่นนำร่องแห่งแรก ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เตรียมเปิดโครงการ ARISE (Phuket) คอนโดมิเนียม Low – Rise ทำเลใจกลางเมือง ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ใกล้หาดบางเทา มูลค่าโครงการรวม 777 ล้านบาท และเปิดพรีเซลไตรมาส 4 ปี 67
“บริษัทยังคงมองหาโอกาส เพื่อขยายโครงการสู่ตลาดต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ และหัวเมืองท่องเที่ยว ในรูปแบบความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจและอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายของยอดขายไว้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท”นายปรีดิกร กล่าว
นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่เป็นไปในทิศทางบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของระบบคมนาคม การเติบโตทางเศรษฐกิจในจังหวัด และการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำให้เกิดการลงทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้น และมีการย้ายที่อยู่อาศัยเข้าสู่เมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ โดยบริษัทวางแผนเร่งขยายโครงการอสังหาฯ ระดับกลาง-บน มุ่งเน้นจุดเด่นบนทำเลศักยภาพ นวัตกรรมการก่อสร้างตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยเอง เป็นบ้านหลังที่สองสำหรับการพักผ่อน และซื้อไว้เพื่อให้บุตรหลานได้ใช้อยู่อาศัยในระหว่างมาศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงเพื่อการลงทุน ปล่อยเช่า
ขณะเดียวกันบริษัทพร้อมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อช่วยสร้างกระแสรายได้ใหม่ ซึ่งเป็นรายได้ประจำให้เพิ่มมากขึ้น เตรียมเปิดตัวโรงเรียนนานาชาติสัญชาติอังกฤษแห่งแรกในเชียงใหม่ ที่สอนโดยบุคลากรและหลักสูตรจากโรงเรียน Mill Hill School โรงเรียนที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศอังกฤษและระดับนานาชาติมายาวนานกว่า 200 ปี โดยอรสิรินเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างอาคารเรียน ด้วยงบลงทุนปีแรกกว่า 170 ล้านบาท บนที่ดินของอรสิรินในจังหวัดเชียงใหม่ ที่บริษัทลงทุนซื้อที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมสำหรับการพัฒนา คาดเริ่มก่อสร้างได้ภายใน ปี 67 และเปิดให้บริการเฟสแรกสำหรับ นักเรียนระดับอนุบาล-Year 1 ได้ภายในปี 2568
นอกจากนี้ เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม PROPSQUARED สื่อกลางที่ให้บริการลงประกาศซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าบ้านและคอนโดฯ สำหรับลูกบ้านของอรสิรินทุกโครงการ ด้วยจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่สะดวก ใช้งานง่าย สามารถอัพเดทข้อมูลแบบ Real time พร้อมบริการด้าน Marketing Solutions ให้กับนายหน้าอสังหาฯทั้งชาวไทย และต่างชาติ อีกทั้งมีแผนตรียมเปิดให้บริการ Life Style Market ศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดนัดแหล่งชอปปิ้งทำเลโซนวนแหวนรอบนอก (แยกท่ารั้ว) เชื่อมต่อใจกลางเมืองเชียงใหม่ได้ง่าย จำนวนกว่า 200 ร้านค้า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ บนพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของอรสิริน คาดเริ่มก่อสร้างภายใน ปี 67 และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาช่วง ปี 2568
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุม ในปีนี้เตรียมงบลงทุนจำนวน 1,700 ล้านบาทเพื่อการซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง พร้อมมองหาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก รวมถึงสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต