วันที่ 5 ก.พ.2567 เวลา 10.30 น.นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ และคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. ...ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยนายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้ยื่นเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 วันนี้มาติดตามความคืบหน้า เนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้นายศุภชัย ใจสมุทร และฝ่ายกฎหมายของพรรคไปศึกษาประกาศและคำสั่งของคสช.ที่มีทั้งหมด 240 ฉบับ ออกเป็นกฎหมาย มี 71 ฉบับ ซึ่งตามศักดิ์คำสั่งและประกาศของคสช.เทียบเท่ากับพระราชบัญญัติ ดังนั้นถ้าจะยกเลิกจะต้องทำเป็นพ.ร.บ.  โดยคำสั่งของคสช.ที่จะบังคับใช้เป็นกฎหมายได้มีทั้งหมด 37 ฉบับ เป็นพระราชกฤษฎีกาและกฎกระทรวงอย่างละ 2 ฉบับ เป็นมติคณะรัฐมนตรี 55 เรื่อง

โดยร่างพ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งคสช.ฉบับที่ได้ยื่นจะยกร่าง 7 มาตรา ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และปัญหาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  เป็นประธาน แต่ขณะนี้ประเทศของเรา เข้าสู่ระบบประชาธิปไตย แล้วจะไปแทรกแซงสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชนไม่ได้ รวมถึงสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุม จึงอยากให้เพื่อนสมาชิกสส. ให้ความเห็นชอบและผ่านร่างกฎหมายนี้โดยเร็ว

"ไม่ได้ตำหนิประกาศคำสั่งคสช.แต่ยอมรับว่าบางฉบับยังมีความจำเป็น และอาจจะมีปัญหากับนักลงทุน เพราะต่างชาติเมื่อเข้ามาลงทุนจะดูกฎหมายเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อมีสภาฯเปรียบเหมือนเป็นโรงงานเกียกกาย การแก้กฎหมายจึงควรมาจากโรงงานเกียกกาย ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกติกา" นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว