คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราษฎรบ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 79 รายถูกสวมสิทธิ์ใช้รูดสินค้าและแก๊สหุงต้ม ในร้านค้าต่างจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้ทำการเพิกถอนสิทธิร้านค้าเหล่านั้นไปแล้ว
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 นายอภิชาน แก่นเพ็ชร คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวีกิจ เจ้าดูรี ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่สะเรียง พ.ต.อ.รัฐวิชญ์ วศินพงศ์ธนัช ผกก.สภ.แม่สะเรียง พ.ต.ท.กิตติ์ธนัตถ์ มหาวันแจ่ม รอง ผกก.สอบสวน สภ.แม่สะเรียง นายประเทือง อาจองกุล นายก อบต.บ้านกาศ นาย ณรงค์ฤทธิ์ ศิริประพัฒน์ กำนันตำบลบ้านกาศ และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ได้ลงพื้นที่ร่วมกันในการติดตามและแจ้งข้อมูลการใช้สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ ของพี่น้องประชาชนชาวตำบลบ้านกาศ 90 ราย ณ วัดท่าข้ามเหนือ บ้านศรีดอนชัย ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
ซึ่งทางกรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบข้อมูลของการใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของพี่น้องประชาชน เบื้องต้นพบ 4 สาเหตุ หลักๆ ซึ่งประกอบไป 1.ประชาชนถูกสวมสิทธิการใช้บัตร จำนวน 79 ราย 2.ถูกระงับสิทธิ จำนวน 8 ราย คือ มีเงินสดหรือทรัพย์สินเกินหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานภาครัฐกำหนด จึงถูกตัดสิทธิ์ 1ราย 3.ไม่ได้ทำการยืนยันตัวตน จำนวน 1 ราย 4. ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนด 1 ราย และ 5. ไม่พบข้อมูลการใช้สิทธิ์ ซึ่งในวันนี้ได้มีการให้คำแนะนำ นัดหมาย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับสวมสิทธิ์ข้อมูลในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
โดยนายอภิชาน แก่นเพ็ชร คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในที่ประชุมว่า ราษฎรบ้านกาศ ที่เป็นผู้ได้รับความเสียหาย จากการสวมสิทธิ์การใช้ข้อมูลบัตร ถูกพบการรูดใช้บัตรในหลายพื้นที่ซึ่งเป็นต่างจังหวัดทางภาคอีสานและภาคใต้ เช่น จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดอุบล จังหวัดสงขลา และจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นการใช้ภาพถ่ายบัตรประชาชนผ่านแอพพลิเคชั่น กระเป๋าตุง และใส่รหัสบัตร 6 ตัว ซึ่งไม่ได้เป็นการเสียบบัตรในเครื่องที่ร้านจึงทำได้ง่ายต่อการโจรกรรมข้อมูล และปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้ทำการเพิกถอนสิทธิร้านค้าดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี จึงต้องมาแนะนำให้กับทางผู้เสียหายในวันนี้
ด้าน พ.ต.อ.รัฐวิชญ์ วศินพงศ์ธนัช ผกก.สภ.แม่สะเรียง แจ้งว่า สภ.แม่สะเรียง ได้เตรียมการรับแจ้งความผู้เสียหายไว้เบื้องต้นแล้ว แต่ข้อจำกัด คือ พนักงานสอบสวนของ สภ.แม่สะเรียง มีเพียง 3 นาย และสามารถรับแจ้งความได้เพียงวันละไม่เกิน 5 - 7 รายเท่านั้น เพราะแต่ละรายต้องทำการสอบสวนไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง หากเกินที่ไปแจ้งความเรื่องดังกล่าวฯ เกินจำนวนจะกระทบต่อการรับแจ้งความคดีต่างๆ ของ สภ.แม่สะเรียง ในแต่ละวันได้ หากปริมาณผู้เสียหายมีจำนวนมากขึ้น ทาง สภ.แม่สะเรียง อาจจะขอสนับสนุน พนักงานสอบสวนจาก สภ.ใกล้เคียงมาช่วยหากจำเป็น และขอความร่วมมือกับทางปกครองอำเภอแม่สะเรียง ในการทำแผนการแจ้งความดำเนินคดีต่อวันให้ด้วย
ทั้งนี้นายวีกิจ เจ้าดูรี ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่สะเรียง กล่าวว่าทางอำเภอแม่สะเรียง จะเป็นผู้จัดทำแผนร่วมกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้เสียหายและมีความรวดเร็ว โดยทาง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกาศ ยินดีในการให้ความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ราษฎรผู้ที่ได้รับความเสียหายจำนวน 79 ราย