วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มีหนังสือสนเท่ห์ส่งทางไปรษณีย์ ถึง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ ซึ่งในหนังสือได้ระบุเรื่อง ที่มีพระสงฆ์ยืนบิณฑบาตที่ตลาดสดมหาราช เนื่องจากพบพระสงฆ์จำนวน 3 -4 รูป ยืนปักหลักรอรับบาตรหน้าตลาดสดมหาราช ตั้งแต่เวลา 05.00 – 09.00 น. โดยที่ไม่ได้เดินไปไหนเลย และรับบิณฑบาตเกินความจำเป็นซึ่งเป็นข้อที่ไม่ควรปฏิบัติของพระสงฆ์ พระสงฆ์ดังกล่าว ปนะชนชนเคยร้องเรียนไปยังเจ้าอาวาสวัดแก้ว
ฯ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพื่อสิ่งที่ถูกต้องดีงามต่อพุทธศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของสามเณร จึงขอรบกวนเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ เข้าไปตรวจสอบแก้ไขต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินกาต่อไปขอแสดงความนับถือ ชาวพุทธเมืองกระบี่
หลังจากที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกระบี่ ได้รับหนังสือสนเทศจึงสั่งการให้เจ้าคณะจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎหมายเถรสมาคม ระเบียบมหาเถรสมาคม และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หากผลเป็นประการใดขอได้โปรดแจ้งกลับเพื่อรับทราบ ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับ วัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ได้รับหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัดกระบี่ ทางพระครูรัตนากร หรือพระอาจารย์บุญเลิศ เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และนายอธิพัชย์ พันธ์จินาธนกุล ปลัดเทศบาลเมืองกระบี่ หัวหน้ากองช้าง และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองกระบี่ รวมลงพื้นที่ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ บริเวณด้านทิศตระวันออกของตลาดดังกล่าว เพื่อตรวจสอบและหาแนวทางการแก้ไขตามหนังสือสนเทศของ ชาวพุทธเมืองกระบี่ โดยพบว่ามีประชาชนที่มีความศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้นำอาหารคาวหวานและสิ่งของมาใส่บาตรให้แก่สามเณรอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ทั้งนี้ ทางเจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ บอกว่า ทางเทศบาลเมืองกระบี่ ได้กำหนดตรงฟุตบาทที่กำหนดจอดรถจักรยานยนต์จำนวนสองแถว โดยใช้ที่ตรงกลางเป็นจุดเดินรับบิณฑบาต เป็นระยะทาง 50 เมตร และมีจุดพักสำหรับพระสงฆ์และสามเณร ทั้งกำหนดให้รับบิณฑบาตตั้งแต่เวลา 06.00 – 07.00 น. ทางกองช้างเทศบาลเมืองกระบี่จะดำเนินการตีเส้นและป้ายบอกให้ประชาชนที่มีความศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้รับทราบ
ในการนี้ทางพระครูรัตนากร หรือพระอาจารย์บุญเลิศ เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยอีกว่า ว่า ได้มีการเรียกพระสงฆ์ที่ไปบิณฑบาตทั้งหมดเข้าร่วมประชุมคณะสงฆ์ไปเมื่อวาน ซึ่งที่ประชุมมีมติว่าห้ามพระภิกษุสงฆ์ไปบิณฑบาตปักหลักในตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ โดยให้เดินบิณฑบาตผ่านพ้นไปได้และบิณฑบาตได้เฉพาะหนึ่งบาตรกับหนึ่งย่ามไม่ให้เกิดกว่านั้น เมื่อก่อนนั้นมีบ้างได้มาสักหนึ่งเข่งแล้วนำมาไว้ที่โรงฉัน แล้วนำมาถวายพระที่อาพาตและพระที่ไปบิณฑบาตไม่ได้ซึ่งเป็นพระที่ชราภาพ อีกส่วนก็ให้สามเณรที่โรงฉันเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของวัด เพราะที่วัดมีทั้งพระสงฆ์และสามเณรเกือบ 100 รูป และมีสามเณรนักเรียนอีก 50 รูป ซึ่งแม่ครัวต้องทำอาหารทุกวันเฉลี่ยค่าทำอาหารตกวันละไม่ต่ำกว่า 4,000 – 5,000 บาท ซึ่งทางวัดก็ต้องแบกภาระอยู่จริงๆทางวัดก็ไม่มีงบค่าอาหารกลางวัน ส่วนสามเณรที่ไปบิณฑบาตที่ตลาดสดหมาราชเทศบาลเมืองกระบี่ก็เหมือนกัน
โดย พระครูรัตนากร เปิดเผย เพิ่มเติม อีกว่า ปัจจุบันทางวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวง ได้รับการเอื้อเฟื้อจากทางวัดปานุราชโดยพระอาจารย์มหาสมพล เจ้าอาวาส ปาวนาไว้ว่าให้ไปเอากับข้าวมาให้สามเณรที่มาเรียนหนังสือ เอามาฉันตอนเพลวันละหนึ่งเข่ง รวมทั้งของวัดแก้วด้วยตกวันละ 2 – 3 เข่ง หากเป็นวันพระใหญ่ทางวัดปานุราช จะให้อาหารมาวันละเกือบสองเข่ง
ด้านนายอธิพัชย์ พันธ์จินาธนกุล ปลัดเทศบาลเมืองกระบี่ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จริงๆแล้วที่ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ ก็มีประชาชนพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาก็มีความประสงค์จะได้บักบาตร เมื่อมาตลาดแล้วจะได้ตักบาตรด้วยในตอนเช้า แต่เนื่องจากว่ามีการร้องเรียนว่าทางพระภิกษุสงฆ์ของวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ ได้ไปบิณฑบาตอาจจะมีเรื่องของการเกิดความไม่เหมาะสมต่างๆขึ้นมา ทางเทศบาลเมืองกระบี่ในฐานะที่รับผิดชอบตลอดสดมหาราช ก็จะได้ร่วมกับทางเจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวรามพระอารามหลวงจังหวัดกระบี่ ได้ลงดูพื้นที่จะได้จัดเส้นทางบิณฑบาตและจุดบิณฑบาตให้กับทางพระภิกษุสงฆ์ได้รับบิณฑบาตต่อไป จุดทีเป็นเส้นทางบิณฑบาตทางด้านฝั่งทิศตะวันออกของตลาด ซึ่งเป็นทางเข้าตลาดดังกล่าว ซึ่งเป็นช่องทางระหว่างที่จอดรถจักรยานยนต์ จะไม่ไปกีดขวางประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ก็คิดว่าพระสงฆ์จะสามารถบิณฑบาตได้โดยไม่ไปกีดขวางในเรื่องพี่น้องประชาชนมามาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด