เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ก.พ.67 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันนำหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 แห่งใน จ.นนทบุรี บริษัทแรกตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ปากซอยบางใหญ่ซิตี้ 6/3 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และบริษัทที่สอง ตั้งอยู่หมู่ 4 ถ.บ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนดำเนินการตรวจค้นเอกสารและพยานวัตถุต่าง ๆ เพื่อนำประกอบเข้าสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ (หมู วัว ไก่)
จากการตรวจค้นในบริษัทแรก ปรากฏมีผู้ชาย 1 ราย ชื่อนายจตุรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี แสดงตัวกับพนักงานสอบสวนว่า เป็นผู้จัดการของบริษัท จากนั้น พ.ต.ต.ณัฐพล ได้อ่านรายละเอียดหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี ว่า วันนี้ตนนำหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมอบอำนาจให้ทำการตรวจค้นบริษัทแห่งนี้ด้วยมีเหตุอันสมควร โดยมีรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้อง 7 บริษัท เพื่อพบและตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ซากสัตว์ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับขนสินค้าระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร ใบถอนเงิน-ฝากเงิน และเอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศ เป็นต้น ที่ใช้ในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ประกอบมาตรา 83 โดยศาลได้กำหนดให้ดำเนินการตรวจค้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 17.00 น.
โดยทางนายจตุรงค์ (ผู้จัดการบริษัท) ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ทางผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมาถึงอาคารก่อนตนเองจะอนุญาตให้เข้าได้ ขอให้เข้าใจในสถานะพนักงานในบริษัท แต่ทางพนักงานสอบสวนชี้แจงว่าการเข้าตรวจค้นในวันนี้มีหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี และถ้าหากมีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ต่อมาทางผู้จัดการจึงยอมถอยให้พนักงานสอบสวนเข้าไปภายในอาคาร และยอมรับในรายละเอียดหมายค้นของศาลว่าแต่ละบริษัทที่ พ.ต.ต.ณฐพล เอ่ยถึงนั้นมีอยู่จริง แต่เป็นบริษัทคนละชื่อแตกต่างกันไป
ต่อมาเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนได้เดินทางมาถึงบริษัทที่สอง สำหรับบรรยากาศการเข้าตรวจค้นในจุดนี้ปรากฏว่า มีผู้จัดการของบริษัทได้เข้ามาแสดงตัวและรับฟังรายละเอียดหมายค้นของศาลจาก พ.ต.ต.ณฐพล ว่า เมื่อสักครู่ตนได้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ คือ บริษัทแรก และมาที่จุดนี้เพื่อตรวจค้นพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทรัพย์สินอื่นๆ และซากสัตว์ที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นเวลา 10.50 น. ทางตัวแทนของบริษัทที่สอง ได้นำแฟ้มเอกสาร จำนวน 2 แฟ้ม และกล่องลัง จำนวน 1 ใบ ติดข้อความระบุ "เอกสารตู้นำเข้า ร.3 , ร.6 , ร.7 , ใบขน , H/C พ.ศ. 2566" มอบให้กับพนักงานสอบสวน กระทั่งเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์บางบัวทอง ได้เดินทางมาถึงและร่วมเข้าตรวจสอบชิ้นส่วนสัตว์แช่แข็งภายในบริษัท ก่อนที่ พ.ต.ต.ณฐพล ออกมาเปิดเผยภายหลังการเข้าตรวจสอบทั้ง 2 บริษัท ว่า สาเหตุของการเข้าตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ วันนี้ดีเอสไอจึงร่วมกันกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์เข้าตรวจค้น ซึ่งภายในอาคารไม่พบสินค้าผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เพราะดีเอสไอพบว่า มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ถูกจับกุมเรื่องนำเข้าสินค้าไม่ชอบโดยกฎหมาย (ประเภทชิ้นส่วนไก่) ขนย้ายจาก ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นำมาฝากแช่ไว้ที่บริษัทแห่งนี้ แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบกลับไม่พบสินค้าใด และจากการสอบถามทราบว่าไม่เคยมีการดำเนินการที่บริษัทแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะตรวจสอบต่อไปเพื่อหาพื้นที่เป้าหมายที่มีการเก็บแช่ ส่วนผลสรุปเบื้องต้นของการตรวจค้นบริษัทแห่งนี้ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงห้องเย็นที่มีการแช่เนื้อวัวไว้ โดยเป็นสิ่งของที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนผลสรุปเบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นบริษัทแรก ได้พบว่ามีบริษัทหลายแห่งที่ใช้สถานที่เดียวกัน แต่บางบริษัทเลิกกิจการไปแล้ว แต่บางบริษัทก็ดำเนินกิจการอยู่ อีกทั้งเรายังพบเอกสารสำคัญในคดีที่จะสามารถเชื่อมโยงในคดีตีนไก่สวมสิทธิ์ได้ โดยเฉพาะจำนวน 74 ตู้ใหม่ที่ดีเอสไออยู่ระหว่างพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ แต่ปัจจุบันยังเป็นอำนาจดำเนินการของ สภ.แหลมฉบัง ซึ่งชิ้นส่วนไก่เหล่านี้เป็นของบริษัทเอกชนที่เราตรวจพบจากเอกสารสำคัญ โดยเกี่ยวข้องแล้ว 20 ตู้ แม้จะยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่เราก็ทำในพาร์ทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า ทั้ง 2 บริษัทที่เราเข้าตรวจค้นในวันนี้จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเฮียเก้าหรือไม่ เราจะต้องไปตรวจสอบในประเด็นนี้เช่นกัน ส่วนการประสานข้อมูลร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง แต่ในส่วนข้อมูลสำคัญที่เขาประสงค์มามอบให้ ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์ม ทราบว่ากระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และดีเอสไอจะยังไม่มีการเชิญข้าราชการในกระทรวงเกษตรฯ รายใดมาสอบปากคำ อีกทั้งในการเข้าตรวจค้นวันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแก่บุคคลหรือนิติบุคคล มีเพียงการตรวจสอบเอกสาร เพราะทั้ง 2 บริษัทได้ให้ความยินยอมมอบเอกสารแก่ดีเอสไอ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ อาทิ เอกสารแสดงการนำเข้าสินค้าและออกจำหน่ายในช่วงปี 2566 ซึ่งเอกสารบางอย่างเป็นประโยชน์ต่อสำนวนการสอบสวน