หนีไม่รอด! "ตร.ปอศ." รวบ 6 ผู้ต้องหาแอบอ้างโครงการหลวง ตุ๋นลงทุนเสนอผลประโยชน์ล่ดใจ 13 ล้านบาทต่อหนึ่งโครงการ พบเงินหมุนเวียนกว่า 269 ล้าน
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย , พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย , พ.ต.ท.เชาวน์วุฒิ เลียบมา , พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ. และ พ.ต.ต.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย สว.ปฏิบัติราชการ กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม 1.นางชยาวรรณ อายุ 60 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 24/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
2.นายวิโรจน์ อายุ 56 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 28/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 3.นางพิชญา อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 27/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 4.นายสิงขร อายุ 53 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 26/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
5.นายจารุเดช หรือเสกสรร อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 25/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร และ6.นางไก่แก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 29/67 ลง 22 ม.ค.67 สถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่ เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ทั้งนี้ พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อต้นเดือนเม.ย.65 ต่อเนื่องเดือนก.ค.66 นางชยาวรรณ ผู้ต้องหา ได้แอบอ้างว่าเป็นประธานโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา, มูลนิธิภูบดินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิราชสกุลอาภากรฯมีหน้าที่ถือสมุดบัญชีและบริหารโครงการต่างๆ ประมาณ 28 โครงการ โดยผู้ต้องหาได้ร่วมกับชักชวนประชาชนทั่วไป ให้มาร่วมลงทุนในโครงการหลวงโดยให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกรรมาธิการโครงการหลวง และชักชวนให้ทำการลงทุนคือ ให้สมาชิกเสียค่าใช้จ่ายเพื่อรับผลประโยชน์ประมาณคนละ 75,000-100,000 บาท เพื่อรับผลประโยชน์ 13 ล้านบาทต่อหนึ่งโครงการ และหลังจากนั้นจะได้รับเงินจาก 50 หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 50 ล้านบาท
การลงทุนอีกรูปแบบคือจะนำเงินของสมาชิกไปปลดล็อกระบบเงินในบัญชี โดยจะให้ผลตอบแทนสูง เช่น ลงทุน 10,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 4 ล้านบาท หรือ ลงทุน 10,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 5 ล้านบาท เป็นต้น โดยมีการชักชวนสมาชิกผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งต่อมามีผู้เสียหาย จำนวน 8 ราย หลงเชื่อและร่วมลงทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 787,090.34 บาท
ต่อมา ผู้เสียหายได้สอบถามไปยังกลุ่มของผู้ต้องหาซึ่งอ้างว่าเป็นผู้บริหารของโครงการต่างๆ ถึงเงินที่จะได้รับ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเอาทรัพย์สินไป จึงได้มาพบพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ นางชยาวรรณกับพวก ให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วขออนุมัติศาลจังหวัดปทุมธานี ออกหมายจับ นางชยาวรรณกับพวก รวม 6 หมาย
จนกระทั่งวันที่ 26 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจค้นจำนวน 7 จุด ในพื้นที่ กทม ฉะเชิงเทรา ลพบุรี นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 6 รายตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด จำนวนกว่า 100 รายการ อาทิ เช่น สมุดบัญชี 54 เล่ม รถยนต์หรู 3 คัน คอมพิวเตอร์ 17 เครื่อง กระเป๋าแบรนด์เนม 5 ใบ นาฬิกาหรู 2 เรือน,แหวนเพชร 1 วง กล้อง DSLR 5 ตัว เหรียญเฉลิมพระชนพรรษา 100 ชิ้น โฉนดที่ดิน 4ฉบับ ในพื้นที่ จ.พัทลุง และสงขลา มูลค่ากว่ารวม 16 ล้านบาท นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ. โทร.082-4818813 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายที่หลอกลวงเหยื่อในหลายลักษณะ อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยเสนอให้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าท่านอาจกำลังถูกหลอก ควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการลงทุน