เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 จากกรณีที่นำเสนอข่าว น.ส.เติ้ง (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ภรรยานักธุรกิจชาวจีน ที่อาศัยอยู่ประเทศสิงคโปร์ ร้องเรียนสื่อฯ กรณีซื้อกระเป๋า Hermes หนังจระเข้สีดำ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศขายราคาใบละ 1.4 ล้านบาท จากร้านขายสินค้ามือสอง ห้างดังย่านราชประสงค์ เมื่อ 1 ต.ค.66 ได้นำไปให้สถาบัน  TCF (The Catch Fake Institute) luxury authenticated ประเทศไทย และ ตรวจรับรองยืนยันว่าเป็นของปลอมทางผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปยังทางร้านขายกระเป๋าเพื่อขอคืนสินค้าแต่ทางร้านอ้างว่าลูกค้าเอากระเป๋าไปแล้วมีค่าาเสื่อมสภาพจำนวน 30% (4.2 แสนบาท) คืนให้แค่ 9.8 แสนบาท ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความ พงส.สน.ลุมพินี เมื่อ 6 ต.ค.66 ก่อนเดินทางกลับสิงคโปร์พร้อมสามี

หลังจากนั้นได้มอบอำนาจตัวแทนเข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี อีกครั้ง 1 พ.ย.66 ที่ผ่าน แต่ยังตกลงกันไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนสื่อมวลชนประเทศไทยให้ทราบถึงพฤติการณ์ผู้ค้านั้น

ล่าสุดวันนี้ น.ส.นานา เจ้าหน้าที่ฝ่ายภาษา ของ สนง.กม. ที.พี.แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด เปิดเผยว่า บัดนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากกการนำเสนอข่าวดังกล่าวแล้ว เนื่องจากทางร้านขายกระเป๋าและตัวแทนตัวแทนจากสำนักงานกฎหมาย ทีพี แอนด์ แอสโซซิเอจ จำกัด ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสน. ลุมพินี เผื่อเจรจาเมื่อวันที่ 16 มกราที่ผ่านมาโดยทางร้านยินยอมรับซื้อกระเป๋าใบดังกล่าวคืนในราคา 1,400,000 บาทและขอให้ผู้เสียหายส่งมอบกระเป๋าใบพิพาทดังกล่าวคืนให้กับทางร้านเนื่องจากเมื่อได้เจรจาไกล่เกลี่ยและ ตรวจสอบแล้วสาเหตุเกิดจาการเข้าใจผิดกันและเมื่อทางร้านเห็นว่าลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจในกระเป๋าทางร้านจึงรับซื้อคืน จากลูกค้าเต็มจํานวนโดยไม่มีการหักค่าเสื่อมสภาพ

สำนักงานกฎหมาย ที.พี.แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด ขอขอบคุณสื่อมวลชนของท่านเป็นอย่างยิ่งสำหรับการรายงานข่าวที่มีความยุติธรรมและเป็นกลางบัดนี้เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการไกล่เกลี่ยและเยียวยาความเสียหายเป็นที่พอใจของทั้งทั้งสองฝ่ายแล้วทางผู้เสียหายและร้านเห็นพร้องกันว่าควรยุติเรื่องราวทั้งหมดแต่เพียงเท่านี้