กรณีที่นางสาวอรทัย  โพสีงาม ภรรยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับเงินมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ.2564 มากว่า 13 ล้านบาทไทย  แล้วแต่งงานใหม่กับชายชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกคน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ประเทศไทย ที่บ้านโคกแขวน หมู่ที่ 5 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ประมาณ 2 ปี แต่มาหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา  หลังจากที่เกิดมีปากเสียกับสามีใหม่ไม่ทันข้ามวัน  ผ่านมาจนวันนี้เป็นเวลา 21 วัน ยังไม่มีเบาะแสใดๆที่จะนำไปสู่การพบตัว น.ส.อรทัย แต่อย่างใด 

กระทั่งล่าสุดเมื่อ วันที่ 29 ม.ค. นายโรแลนด์ สามีใหม่ชาวต่างชาติ ของ น.ส.อรทัย ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี เพื่อติดต่อขอหนังสือเดินทางที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันทาง พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด รอง ผบก.จว.นครราชสีมา ก็ได้เดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติ่ม ร่วมกับ พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.ครบุรี และพนักงานสอบสวน 


ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ รอง ผบช.ภ.3 และ พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาในการสอบปากคำนายโรแลนด์ นานกว่า 5 ชั่วโมง จนนายโรแลนด์รับสารภาพ และนำตำรวจมาชี้จุดที่ทิ้งศพ นางสาวอรทัย ภรรยา ที่ไร่ข้าวโพดริมถนนสายโคกกรวด ดอนแขวน ท้องที่บ้านโคกกรวด ม.8 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราขสีมา ภายหลังจากที่เค้นสอบปากค่ำนานกว่า 5 ชั่วโมง รับมีปากเสียงแล้วเกิดต่อสู้กันพลั้งมือบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนนำศพใส่มอเตอร์ไซด์มาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว