วันที่ 29 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและผู้เกี่ยวข้อง 42 ปี ฐานเรียกรับ และละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ กรณีปล่อยให้นักค้ายาเสพติดผิวดำ เข้า ออก ประเทศ โดยไม่ได้มาแสดงตน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดอนเมือง ได้มีการนำพาสปอร์ตนักค้ายาเสพติดผิวสี มาต่อวีซ่า และบันทึกเข้าออก ประเทศ โดยที่ไม่ได้มาแสดงตน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบความผิดปกติ หลังจากจับกุมผู้ต้องหากับพวกได้ โดยผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศไทย แต่กลับมีการบันทึกการเดินทางเข้าออกประเทศ จำนวนหลายครั้ง โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คดีนี้อดีตผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) ได้มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากพบพฤติกรรมเรียกรับและละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ได้มีหนังสือแจ้งจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย คดีปราบปรามการทุจริต 3 เรื่องแจ้งผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับคดีอาญา ของดาบตำรวจ โดยแจ้งไปยังผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานกรุงเทพ (สนามบินดอนเมือง) ซึ่งแจ้งผลการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับพวก 15 คน สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 ขอเรียนว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2466 ว่า ดาบตำรวจ .......... มีความผิดตามประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 160, 162 (1) (3) (4) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ สำหรับจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 160, 162(1) (3) (4) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 14 กระทง คำให้การในชั้นพิจารณาและคำให้การในชั้นไต่สวนของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษเห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 42 ปี 56 เดือน
และนี่ถือเป็นคดีตัวอย่าง ที่อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง “บิ๊กโจ๊ก” ได้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ทุกรายที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมีการเรียกรับประโยชน์ และยังมีอีกหลายกรณีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยเฉพาะกรณีที่เปิดให้มีการใช้มูลนิธิเถื่อนในการรับรองการอยู่ต่อ