วันที่ 29 ม.ค.67 ที่ปทุมธานี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล กลับเข้าปฎิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สิ้นสุดลง กรณีถือหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายพิธา เชื่อว่าจะทำให้การทำงานในสภาฯมีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะการทำงานในระบบสภาผู้แทนราษฎรต้องมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เมื่อฝ่ายค้านมีสมาชิกเข้ามาทำงานเต็มตัว ทำให้วันนี้นายพิธาสามารถเข้ามาทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฝ่ายค้านได้อีกครั้งหนึ่ง

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนที่ถามว่ารัฐบาลเป็นห่วงหรือไม่ในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน นั้น ส่วนตัวตนไม่เป็นห่วง ในทางตรงกันข้ามจะทำให้การเช็คแอนด์บาลานซ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามระบอบของสภาผู้แทนราษฎร

นายวรวุธ กล่าวว่า ส่วนกรณีสว.ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตาม ม.153 ซึ่งมีประเด็นสังคมด้วยนั้น ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่กระทรวงพม. โดยตนจะสามารถชี้แจงให้สมาชิกวุฒิสภารับฟังได้ว่าตลอด4เดือนที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง หรือในทางกลับกันหากสมาชิกวุฒิสภามีข้อมูลที่จะมาตั้งข้อสังเกต หรือ ส่งเสริมต่อการทำงานของกระทรวง พม. เรายินดีน้อมรับนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะท้ายที่สุดแล้ว ข้อสังเกตหรือการอภิปรายของสว.นั้น เชื่อว่าเป็นประโยชน์ในการทำงานของรัฐบาล

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าสว. ไม่เคยเปิดอภิปรายรัฐบาลเช่นนี้ จะทำให้รัฐบาลตกเป็นเป้า นายวราวุธ กล่าวว่า นานาจิตตัง การที่ไม่เคยไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาทางสว. อาจจะยังมีข้อสงสัยใด แต่เมื่อวันนี้เกิดข้อสงสัยทางวุฒิสภาก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามกฎหมาย การที่ไม่เคยไม่ได้แปลว่าห้าม ในกฎหมายเปิดช่องให้สว. ตั้งข้อสังเกตให้มีการอภิปรายได้ ก็ทำตามกติกาที่เกิดขึ้น ส่วนทางรัฐบาลยินดีที่จะให้คำชี้แจง และเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชี้แจงกับพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน