หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

“พิธา รอด” แต่ “พรรค” จะ “ร่วง” ติดหล่ม กับดักของตัวเองหรือไม่ ยังต้องตามลุ้นกันต่อ ในวันพุธที่ 31 มกราคมนี้ โดย “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดฟังคำวินิจฉัยกรณี “พรรคก้าวไกล” ชูนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในการหาเสียงที่ผ่านมา จะเข้าข่ายการกระทำ “ล้มล้างการปกครอง” หรือไม่ !? ...*...

ที่มาที่ไปของมูลเหตุแห่งคดีล้มล้างการปกครอง มาจากการที่ “ธีรยุทธ สุวรรณเกสร” ทนายความอิสระ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตาม รัฐธรรมนูญต มาตรา 49 ว่าการกระทำของ “พิธา” ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล  และ พรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งยังใช้ประเด็นว่าด้วย แก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2566 ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา  49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ...*...

สำหรับคำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกสร”  นั้นไม่ได้ขอให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่ง “ยุบพรรคก้าวไกล” แต่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง คือทั้ง “พิธา” และ “พรรคก้าวไกล” หยุดพฤติกรรมการนำนโยบายยกเลิกหรือแก้ไข  “มาตรา112” อันเป็นกฎหมายที่มีไว้เพื่อปกป้อง “สถาบันพระมหากษัตริย์” มาใช้หาเสียง ดังนั้น หากผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ออกมาในทางที่เป็น “โทษ”  ด้วยการชี้ว่า “เป็นการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง” ฉากต่อไป จะมี “ผู้ร้อง” ไปยื่นคำร้องต่อ “กกต.” เพื่อให้ “ยุบก้าวไกล” ตามมาเป็น “ดาบสอง” หากออกรูปนี้ถือว่า สถานการณ์หนักหนาสาหัส ...*...

เพราะแม้ “นักรัฐศาสตร์” หลายสำนัก จะได้วิเคราะห์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า  “พรรคก้าวไกล” แม้จะถูก “ยุบพรรค” ก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีแต่ “ยิ่งยุบ ยิ่งโต”  พรรคจะกลับไปใช้สูตรเดิม นั่นคือ “ตั้งพรรคใหม่” เพื่อรองรับ เหมือนที่เคยใช้รูปแบบนี้คราว “พรรคอนาคตใหม่” ถูกยุบ จากนั้นถ่ายเลือดคนที่เหลือย้ายมา “พรรคก้าวไกล” แต่อย่าลืมว่า หากพรรคก้าวไกล มีอันต้องถูกยุบพรรค จากปมประเด็น “มาตรา12” เท่ากับว่าในการหาเสียงเลือกตั้งรอบหน้า สิ่งที่เคยเป็น “จุดขาย” คือการรณรงค์ยกเลิก และแก้ไจ “มาตรา112”  จะนำมาใช้อีกไม่ได้...*...

การออกมาแสดงความเห็นของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพูดถึงพรรคก้าวไกลกับการแก้ มาตรา 112 แสดงความไม่เห็นด้วย อย่างตรงไปตรงมา ว่าเหตุใด “พิธา-พรรคก้าวไกล” ต้องส่งสัญญาณ “หมอบ” ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ...*...

“ผมไม่ได้ไร้เดียงสา ถึงขนาดว่าจะต้องแก้ 112 ให้ได้ จะต้องทำเรื่องนี้อย่างเดียว โดยไม่ต้องทำเรื่องอื่น ผมตระหนักดีถึงการรุก/รอ/ถอย แต่ผมเห็นว่า การเคลื่อนตลอดสัปดาห์นี้ไปจนถึงวันที่ 31 มค. ที่ศาลจะตัดสิน ที่ทำๆกันนั้น ไม่ได้คิดประเมิน รุก ถอย บริหารจัดการความคาดหวังคนเลือก แต่มุ่งไปในทิศทาง หมอบ เสียมากกว่า ด้วยคิดว่าจะช่วยทำให้รักษาพรรคได้” ...*...

ความกราดเกรี้ยว ขัดใจ จาก “ปิยบุตร” ต่อท่าทีของ “พิธา” ที่เพิ่งคัมแบค รอดตายจาก “คดีไอทีวี” มาสดๆร้อนๆ ย่อมไม่มีผลอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะการกำหนดเกมของพรรคก้าวไกล ย่อม ไม่มี “ปิยบุตร” อยู่ในวงมาเนิ่นนานแล้ว ! ...*...

แม้จะนอนเล่น ..เอ้ย นอนพักรักษาตัว อยู่บนชั้น 14  แล้วมองลงมาพิจารณา “ผลงาน” ที่สร้างขึ้นมากับมือ ทั้งการตั้งรัฐบาล การส่ง “คนในคาถา” เข้าไปนั่งเป็น “นายกฯคนที่ 30” แต่ใช่ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯที่บัดนี้มีสถานะนักโทษ ติดตัวจะสบายอกสบายใจ  เพราะ “อิสรภาพ” พ้นจากโทษ แล้วได้ปรากฏตัวโดย “อิสระ” ยังเป็นเพียง “ความหวัง” ที่ยังต้องรอคอย แต่ยังจับต้องไม่ได้อยู่ดี ! ...*...

ที่มา: พันแสง (29/01/67)