จากกรณีเกิดเหตุนักเรียนชายชั้น ม.2 ถูกแทงภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซอยพัฒนาการ 26 โดยถูกแทงที่ท้องและที่คอ อาการสาหัส ล่าสุดได้เสียชีวิตแล้ว ที่โรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ม.ค.67 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซอย พัฒนาการ 26 ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เล่าว่า หลังจากนักเรียนเลิกแถวแล้วกำลังจะขึ้นห้องเรียน ตนก็อยู่ในป้อม แต่จู่ ๆ เด็กนักเรียนคนที่ถูกแทง ก็วิ่งออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ เอามือกุมบาดแผลบริเวณลำคอไว้ แล้วก็วิ่งมาล้มลงตรงกลางสนามกีฬา ตนจึงรีบวิ่งออกไปช่วย เอาผ้าไปอุดบริเวณแผล ไม่ให้เลือดไหลไปมากกว่านี้ โดยตอนนั้นน้องนิ่ง พูดไม่ได้ เพราะเลือดไหลเยอะมาก ตนก็พยายามบอกน้องว่า “อย่าหลับนะๆ” พยายามเรียกให้เขามีสติตลอด ส่วนคนก่อเหตุ ตนเห็นว่าวิ่งตามน้องที่ได้รับบาดเจ็บมา ไม่ยอมพูดจาอะไร แต่สายตาจ้องมายังน้องตลอด จนคุณครูต้องมารีบจับตัวและระงับเหตุเอาไว้
ตนไม่รู้เลยว่า เด็กนักเรียนทั้ง 2 คนมีปัญหาอะไรกัน แต่รู้เพียงว่าคนก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษที่มีพัฒนาการช้า แต่จากการสังเกตก็เห็นน้องมีกลุ่มเพื่อน ยิ้มแย้มแจ่มใสตามปกติ วันเกิดเหตุก็ไม่ได้เห็นว่ามีอาการเครียด และทั้ง 2 คนก็ไม่ได้สนิทสนมกัน จึงไม่ทราบเลยว่า สาเหตุที่ก่อเหตุแบบนี้เกิดจากอะไร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโรงเรียนก็มีมาตรการในการตรวจอาวุธของนักเรียนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่ได้ตรวจทุกวัน
ด้าน ผู้ปกครองนักเรียนที่เรียนโรงเรียนนี้ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.2/3 อยู่ห้องเดียวกันกับเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุ โดยลูกชายบอกว่า ได้อยู่ในเหตุการณ์แล้วรู้สึกตกใจมาก วันนี้จึงรีบมารับลูกกลับบ้านก่อน เพราะกลัวว่าลูกจะเสียขวัญ หลังจากที่ทราบว่าเด็กที่ก่อเหตุเป็นใครก็รู้สึกตกใจมาก เพราะว่าที่ผ่านมาลูกชายเคยมาเล่าให้ฟังว่า เด็กที่ก่อเหตุมักจะ ไม่ค่อยพูดจาหรือสุงสิงกับใคร และดูเป็นคนเงียบผิดปกติ ตนมักจะบอกลูกเสมอว่าให้ระวังเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าเด็กที่ไม่พูดหรือเงียบแบบนี้ ในใจคิดอะไรอยู่ แต่ก็คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนก็ปรึกษากับครอบครัวว่า อยากจะพาลูกย้ายออกจากโรงเรียนนี้ เนื่องจากมองว่ามันไม่มีความปลอดภัย โรงเรียนไม่มีการตรวจอาวุธ ทั้งที่ บริเวณโดยรอบดังกล่าวก็มักจะมีนักเรียนหรือวัยรุ่นตีกันเป็นประจำ อย่างกรณีล่าสุดที่ตนเห็นเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือคือเห็นนักเรียนวัยรุ่นใช้มีดจี้นักเรียนด้วยกัน จึงมองว่าโรงเรียนทราบปัญหานี้แล้วก็ควรเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมากกว่านี้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ทั้งนี้ ตนก็จะกลับไปพูดคุยกับลูก เรื่องย้ายโรงเรียน
#นักเรียนถูกแทง #พัฒนาการ