วันที่ 29 ม.ค.2567 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.การต่างประเทศ แถลงข่าว ชอแสดงความยินดีกับรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ที่มีการลงนาม MOU ให้ฟรีซ่าฟรีกับคนไทยที่จะเดินทางไปประเทศจีน ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายครั้งในระยะหนึ่งเดือนผ่านมา หรือทุกครั้งที่มีโอกาสได้พบปะกับผู้นำ EU ไม่ว่าจะเป็นประธานสภาแห่งสหภาพยุโรป (EU) หรือนายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม ที่ไปประชุม เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส และประธานาธิบดีของประเทศสาธารณรัฐเยอรมัน ที่มาเยือนเมืองไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งคำพูดดังกล่าวทำให้เป็นความหวังของคนไทยว่าต่อไปจะไปเที่ยวแถบยุโรปไม่ต้องมีวีซ่า ตนสนับสนุนเจตนาของรัฐบาลในการที่จะทำให้หนังสือเดินทางไทยมีอำนาจในการเดินทางไปหลายประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าเหมือนเช่นหนังสือเดินทางของพลเมืองในประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์
นายจุลพงศ์ กล่าวว่า ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึง EU เมื่อเดือนต.ค.2566 ขอยกเว้นวีซ่า แต่ต่อมา EU ได้มีหนังสือตอบปฏิเสธมาตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.2566 ลงนามโดยเลขาธิการฝ่ายกิจการเข้าเมืองและกิจการภายในของ EU แจ้งว่าในปัจจุบันนี้ EU ไม่มีนโยบายในการเจรจายกเว้นวีซ่าเชงเกนให้แก่พลเมืองประเทศใดประเทศหนึ่งโดยการร้องขอของประเทศนั้นเพียงประเทศเดียว และยังได้แจ้งแก่รัฐบาลไทยด้วยว่า EU จะยังไม่ทบทวนการยกเว้นวีซ่าเชงเกนแก่คนไทยจนกว่าจะถึงกลางปี 2568 อันเป็นช่วงเวลาที่ EU จะประเมินความเหมาะสมในการยกเว้นวีซ่าให้แก่ประเทศหลายประเทศภายใต้มาตรฐานการพิจารณาของอียูหลายเรื่อง และเรื่องหนึ่งในมาตรฐานคือ การเคารพหลักสิทธิมนุษยชนในประเทศที่ EU จะพิจารณายกเว้นวีซ่าให้
“ผมไม่ทราบว่านายกฯได้รับรายงานเรื่องการที่ EU ปฏิเสธที่จะพิจารณายกเว้นวีซ่าเชงเกนแก่คนไทยตามคำขอหรือไม่ จึงเห็นว่าการที่ท่านนายกรัฐมนตรี ย้ำบ่อยๆ ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ว่ากำลังเจรจากับ EU เพื่อยกเว้นวีชาเชงเกนให้แก่คนไทย อาจสร้างความผิดหวังให้แก่คนไทยจำนวนไม่น้อย จึงขอเสนอให้นายกฯได้ทบทวนการใช้คำว่าขอร้องให้เขายกเว้นวีซ่าให้เพราะประเทศไทยเป็นประเทศสำคัญของอาเซียน เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรี จึงไม่ควรใช้คำว่าเราต้องไปขอร้องเขา
ที่ควรทำคือต้องเตรียมตัวเองภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนที่ดี รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งการเจรจาให้สำเร็จคงทำได้ยาก แต่อยากให้นายกฯดำเนินการเรื่องโครงการดิจิตอลวอลเลตตอนนี้อยู่ที่ไหน และจะทำอะไรต่อไปมากกว่า” นายจุลพงศ์ กล่าว
#ฟรีวีซ่า #ก้าวไกล #อียู