นามเรียกขาน “สหายใหญ่” อาจไม่คุ้นนัก สำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่สำหรับแวดวง “คนเดือนตุลา”  นามสหายใหญ่ นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันดี

“ภูมิธรรม เวชยชัย”  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าของนามเรียกขาน สหายใหญ่ ที่กว้างขวาง ชำนาญทั้งเกมบู๊และบุ๋น ครบเครื่องในคน คนเดียว  ความน่าสนใจของภูมิธรรมทั้งในฐานะผู้มีบทบาทในพรรคเพื่อไทย ไปจนถึงที่ทำเนียบรัฐบาล 

เขาเองถูกจับตามองมาโดยตลอดว่า ในทุกความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งบวกและลบต่อ จะต้องมีภูมิธรรม เข้ามาทำหน้าที่ทั้งชี้แจง ตอบโต้ และบริหารจัดการ ให้ทุกอย่างคอมพลีท ที่สุด !            

บทบาทของภูมิธรรม  ดำเนินไปด้วยกันในหลายบทบาท หลากมิติ ทั้งในฐานะเจ้ากระทรวงการค้า ประจำการที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกรดเอ ขณะเดียวกันยังเป็น ประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางจัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ  และที่สำคัญไปกว่านั้นสหายใหญ่คนนี้ยังถูกจับตาในฐานะ “มือทำงาน” ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ให้ความไว้วางใจ ตั้งแต่ครั้งทำพรรคไทยรักไทย จนรุ่งเรือง         

หากย้อนกลับไปเมื่อคราวหลังเลือกตั้ง ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย วางมือทำงานประสานการจัดตั้งรัฐบาลเอาไว้ 3 คนคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค , ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และภูมิธรรม แกนนำพรรค ทั้ง3 ทำหน้าที่เดินเกม และพลิกเกม ในจังหวะ “เปลี่ยนเกม” เมื่อพรรคเพื่อไทย เลิกจับมือกับพรรคก้าวไกล และข้ามขั้วไปจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคการเมือง ที่เคยอยู่กับรัฐบาลที่แล้ว

ในท่ามกลางเสียงโจมตีพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง มิหนำซ้ำยังอยู่ในปรากฎการณ์ “พิธาฟีเวอร์” แต่กระแสต่างๆเหล่านั้น ไม่ได้ทำให้ ภูมิธรรมสะเทือน เพราะชีวิตนักการเมืองรุ่นใหญ่นั้นผ่านร้อน ผ่านหนาวมานักต่อนัก

จนมาถึงวันนี้ ที่รัฐบาล  “เศรษฐา ทวีสิน”  กำลังปะทะกับปัญหาความเชื่อมั่น ทั้งด้านเศรษฐกิจ การผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จนล่าสุดโครงการแลนด์บริดจ์ ที่ยังลุ้นว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ ปรากฏว่าทุกคำถาม ทุกข้อข้องใจ ก็มีภูมิธรรม รับหน้าเสื่อ แจงสื่ออย่างหนักหน่วง รวมถึงเรื่องปรับครม.จะมีหรือไม่

ภูมิธรรม หรือสหายใหญ่ เกิดเมื่อวันที่  5 ธันวาคม พ.ศ. 2496 จบการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์  จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านการศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในปี พ.ศ. 2547

ภูมิธรรม เคยเข้าป่าหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 อยู่ที่เขตงานอีสานใต้  และชื่อ สหายใหญ่ ก็ได้จากที่นี่ นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ในครั้งนั้น คือ “สหายจรัส” คือ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่นั่งทำหน้าที่เป็น “นายกฯน้อย” ข้างกาย นายกฯเศรษฐา

ภูมิธรรม คือมือทำงานที่อดีตนายกฯทักษิณ ไว้วางใจ ให้ดูแลงานในพรรคเพื่อไทย และที่ทำเนียบรัฐบาล ที่เศรษฐานั่งเป็นนายกฯ