“ดร.เอ้” ผนึกทีมกทม. “ปชป.” เดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งเป้ากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม.จัดเสวนาเพื่อแนวทางการขับเคลื่อน การสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีส.ก. อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค มากกว่า 50 คน อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม., นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์, นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีตส.ส.กทม., นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เหรัญญิกพรรคและอดีตส.ส.กทม., นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.กทม. เตรียมพร้อมศึกเลือกตั้งกทม.ครั้งหน้า

โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เป็นการระดมความคิดเห็นของสมาชิกพรรค เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อน สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเวทีนี้เป็นรูปแบบ Townhall Meeting เป็นเวทีเปิดให้สมาชิกออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระว่าอยากเห็นพรรคเป็นอย่างไร และทำอย่างไรให้ชนะใจคนกรุงเทพ โดยเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยอีกครั้ง

“วันนี้เรามาพบกัน ทุกคนเห็นหน้ากัน ทุกคนเท่าเทียมกัน มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในพรรคที่เรารัก เราศรัทธา เรารอคอยการเปลี่ยนแปลงของพรรคของเรา ผมเองลาออกจาก 21 ตำแหน่ง เพื่อเข้ามาเดินบนเส้นทางการเมือง เพราะนี้คือพรรคการเมืองที่ดีที่สุด ผมเลือกพรรคประชาธิปัตย์และผมจะอยู่กับประชาธิปัตย์ ผมไม่เอาชีวิตของผมมาทิ้งในที่ที่ไม่มีอนาคตแน่นอน ผมเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยได้ 100% แน่นอน ผมจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง”นายสุชัชวีร์ กล่าว

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกข้อเสนอแนะของทุกท่านล้วนเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ เราจะสร้างความเชื่อมั่นซึ่งมาจากการกระทำ วันนี้เราเดินหน้าทำไปแล้วในหลายเรื่องเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยสาธารณะเรากำลังจะมีกฎหมายเพื่อความปลอดภัยซึ่งเป็นฉบับของประชาชนอย่างแท้จริง, การแก้ปัญหา PM 2.5, ปัญหายาเสพติด, การศึกษา และสาธารณสุข ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราจะทำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เราจะยกระดับงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเข้าถึงปัญหาของประชาชนและการสนับสนุนการทำงานของทีมงานกทม. ในการทำงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ และเราจะจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน เดินสู่เป้าหมายเดียวกัน และขอให้คำมั่นว่าจากนี้ไปผมขออุทิศตน อุทิศชีวิตสร้างพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม

ด้านนายองอาจ กล่าวว่า วันนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะในพรรคประชาธิปัตย์ แต่บริบทและมิติทางการเมืองก็เปลี่ยนไป พรรคประชาธิปัตย์เปรียบเสมือนหนังสือเล่มหนึ่งที่ไม่มีบทสุดท้าย จะมีบทต่อๆ ไป ให้เราต้องอ่านไปเรื่อยๆ วันนี้เชื่อมั่นว่านายสุชัชวีร์ จะเข้ามาสืบสานภารกิจที่สำคัญในการนำพาพรรคประชาธิปัตย์ก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.ที่รับผิดชอบ ได้ประสบความสำเร็จ โดยขอฝากให้พวกเราทุกคนต้องมี 3 ม. คือ 1.มีความมุ่งมั่นแม้สถานะเราจะเปลี่ยนไป 2.มีเป้าหมายที่ชัดเจน และ 3.มีความมั่นใจในสิ่งที่เราคิด เราศรัทธาเราตั้งใจและมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน