คลื่นลมแรงพลิกวิกฤติเป็นโอกาสชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านเลเก้าเส้ง หันมาทอดแหจับปลากระบอกซึ่งมีอยู่ชุกชุมบริเวณชายฝั่ง ช่วงหยุดออกเรือ ราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 350 – 400  บาท

   ที่ จ.สงขลา ช่วงนี้ต้องเผชิญกับฝนตกและคลื่นลมในทะเลที่มีกำลังแรง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ชายฝั่ง6 อำเภอของจ.สงขลา ตั้่งแต่อ.ระโนด สทิงพระ สิงหนนคร จะนะ เทพา และอ.เมือง ต้องหยุดออกเรือชั่วคราวเพราะคลื่นแรง

   และท่ามกลางคลื่นลมแรงจากวิกฤติกลับกลายเป็นโอกาส เพราะว่าชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนชาวเลเก้าเส้ง ซึ่งเป็นชุมชนขาวเลเก่าแก่ดั้งเดิมของเมืองสงขลา

พากันนำแหมาทอดจับปลากระบอกบริเวณชายฝั่ง  บริเวณเวิ้งอ่าวชายหาดสมิหลา โดยยืนเรียงรายกันเป็นจุดๆตลอดแนวชายหาด

สายตาจับจ้องไปที่ฝูงปลากระบอกที่ว่ายมากับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งด้วยทักษะและความชำนาญซึ่งคนปกติทั่วไปอาจจะดูไม่ออกแต่ชาวชาวเลดูไม่พลาด

    เมื่อเห็นฝูงปลากระบอกเข้ามาก็จะรีบวิ่งเข้าไปทอดแหดักหน้าฝูงปลาทันที เนื่องจากปลากระบอกมีความว่องไวและว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว จึงต้องเหวี่ยงแหให้เร็ว

 

   นายรอยี  เจ๊ะแว  อายุ 33 ปี หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านจากชุมชนบ้านเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา  เปิดเผยว่า มาทอดแหจับปลากระบอก บริเวณชายหาดสมิหลาสงขลาในช่วงนี้ เนื่องจากไม่สามารถนำเรือออกจับปลาได้ เพราะคลื่นลมแรง ทำให้ต้องหยุดออกเรือและนำแหมาทอดจับปลาที่บริเวณชายหาดสมิหลา เพื่อนำรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว เพราะที่นี่มีปลาชุกชุม

สำหรับราคาปลากระบอกตัวใหญ่ กก.ละ 350 – 400  บาท ส่วนตัวเล็กราคา กก.ละ 200 – 250 บาท เป็นราคาที่ดีมาก แต่ละวันชาวประมงพื้นบ้านที่มาทอดแหจะจับปลากระบอกได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 กิโลขึ้นไป เป็นการหารายเดิมเสริมในช่วงที่ต้องว่างเว้นจากการออกเรือซึ่งเป็นรายได้ที่ดี

 

#จับปลากระบอก #ฝนตกหนัก #งดออกเรือ