เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.  พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รองผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4  ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนชื่อดัง ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ผู้ดำเนินรายการ MONEY TALK ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายปลอมเพจ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หลอกลงทุนออนไลน์ ความเสียหายเกือบ 286 ล้านบาท
   

 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีกลุ่มมิจฉาชีพได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจของปลอม โดยแอบอ้างเป็น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนชื่อดัง หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนหุ้นออนไลน์ จากการตรวจสอบฐานข้อมูลระบบการบริหารคดีออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีเหยื่อของคดีในลักษณะ ดังกล่าวถึง 52 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 286 ล้านบาท
   

โดยคนร้ายกลุ่มนี้มีพฤติการณ์โพสต์โฆษณาผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมชื่อ “นิเวศน์  เหมวชิรวรากร” โดยเชิญชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนหุ้นต่างประเทศ อ้างว่ามีผลตอบแทนในลักษณะกำไรสูง มีนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในการเทรดหุ้นคอยแนะนำ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และติดต่อกับเพจดังกล่าว ต่อมาได้ส่งข้อความพูดคุยผ่านแอปไลน์ กับชายที่ใช้โปรไฟล์ชื่อ “นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ซึ่งเป็นผู้แนะนำเบื้องต้น จากนั้นได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ โดยมีผู้ใช้บัญชีโปรไฟล์ชื่อ “Darren” อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้แนะนำหุ้น ผู้ใช้บัญชีโปรไฟล์ ชื่อ “Joy” อ้างว่าเป็นเลขาผู้ช่วยของนายดาร์เรน คอยให้คำแนะนำในการลงทุน และ ผู้ใช้บัญชีโปรไฟล์ชื่อ “PSLUS-Kevin” อ้างเป็นโบรกเกอร์
     

จากการสืบสวนพบบัญชีโปรไฟล์ทั้ง 3 นั้น มีการแบ่งหน้าที่กันพูดคุย คอยโน้มน้าวสร้างความน่าเชื่อถือจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยผู้ใช้บัญชีไลน์ “Darren” จะเป็นผู้กำหนดแผนการเล่นหุ้นให้ผู้เสียหาย และให้ข้อมูลว่าหุ้นไหนมีผลตอบแทนสูงหรือต่ำ โดยมักแนะนำให้ลงทุนหุ้นต่างประเทศ เช่น หุ้นสหรัฐ, หุ้นสวีเดน หุ้นฮ่องกง เป็นต้น นายดาร์เรน ต่อมาบัญชีไลน์ “Joy” จะสอนวิธีซื้อหุ้นตามที่ บัญชีไลน์ “Darren” แนะนำ จากนั้นบัญชีชื่อ“PSLUS-Kevin” ที่อ้างตนเป็นโบรกเกอร์จะแนะนำวิธีการซื้อขายหุ้น สอนฝากเงินเข้าบัญชีธนาคาร และส่งลิงก์ให้ดาวโหลดแพลตฟอร์ม PSLUS เพื่อติดตั้งในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นให้ผู้เสียหายซื้อขายหุ้น โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเริ่มโอนเงินจากยอดน้อยๆ จนกระทั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินคืนได้ สร้างความเสียหายกว่า 320,000 บาท
     

พล.ต.ต.สถิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวการสำคัญได้จำนวน 8 ราย ประกอบด้วยนายอานันต์ อายุ 40 ปี น.ส.ใบเฟิรส์ หรือเฟิรส์ อายุ 29 ปี น.ส.สุทธิดา อายุ 41 ปี นายกฤษดา อายุ 28 ปี น.ส.ขวัญกมล อายุ 25 ปี น.ส.ขรินทิพย์ อายุ 39 ปี นายจักรี อายุ 36 ปีและนายอัมรินทร์ อายุ 23 ปี ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ”  ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้สั่งการรวมทั้งนายหน้า ผู้รวบรวมบัญชีม้าต่อไป 


      พล.ต.อ.รอย กล่าวทิ้งท้ายว่า การหลอกให้ลงทุนถือว่ามีผลตอบแทนสูงกว่าหลายหลายเคสซึ่งมีการพูดคุยกันหลายครั้งแล้ว และอีกเรื่องคือการที่หน่วยงานราชการหรือตำรวจโทรศัพท์ไปตรวจสอบหรือแจ้งว่าเป็นผู้ทำความผิดขอประชาสัมพันธ์ไว้ ณ จุดนี้ว่าหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการกระทำในลักษณะนี้หากมีการทำความผิดจริงจะมีการลงไปหาที่บ้านอย่างแน่นอน