องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยกกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย 

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากเนื่องจากในวันที่ 4 เม.ย.66 ซึ่งเป็นวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต่อ กกต.แม้นายพิธาจะเป็นผู้ถือหุ้น 42,000 หุ้น แต่ในวันดังกล่าวบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ได้สิ้นสภาพความเป็นสื่อไปก่อนแล้วนับตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.50 ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้บอกเลิกสัญญา

สำหรับมติของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ไม่สิ้นสุดลง เป็นมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 โดย 1 เสียงข้างน้อยคือนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ที่เห็นว่าสมาชิกภาพของนายพิธาสิ้นสุดลง

# นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่ารู้สึกเฉยๆ เป็นปกติ จากนี้ตนพร้อมที่จะเดินหน้าทำงานต่อไป ภารกิจแรกคือจะแถลงแผนงานประจำปีที่ได้รับมอบหมายจาก นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

และจากนี้ไปจะทำหน้าที่ ส.ส.ให้สมกับที่รอมา วันนี้ในใจคิดแต่เรื่องการทำงานและรอเวลาว่าจะได้กลับเข้าสภาฯเมื่อไหร่ โดยการทำงานการเมืองในฐานะฝ่ายค้านจะต้องเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะรีบกลับไปเสริมทัพทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคก้าวไกล