ไฟไหม้ชุมชนแออัดข้างวัดเชิงท่า วอด 5 หลัง หมดตัวตาม ๆ กัน เป็นบริเวณใกล้เคียงที่เกิดไฟไหม้มาแล้วหลายครั้ง ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน จึงสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด โชคดีช่วยผู้ป่วยติดเตียง 2 รายออกมาได้ทัน

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.67 ร.ต.อ.หญิง อรมรัตน์ พงศ์ประยูรณ์ รอง สาวัตรสอบสวน สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน โดยที่เกิดเหตุ เป็นชุมแออัด อยู่ติดกับกำแพงวิหารหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า ชุมชนวัดเชิงท่า ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี โดยที่เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ ที่ปลูกติดกันอยู่หลายหลัง อย่างรุนแรง จึงขอกำลังรถน้ำดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ จากเทศบาลเมืองลพบุรี และ องกรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงและหน่วยทหาร จำนวนหลายคันมาช่วยกัน ควบเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ในขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง และหลังที่เกิดเพลิงไหม้ ต่างก็ขนของออกมาจากบ้านกันอย่างอลม่าน ซึ่งบ้านบ้างหลังที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่มีใครอยู่บ้าน ซึ่งก็ไม่สามารถขนของออกมาได้เลย ซึ่งใช้เวลาในการควบคุมเพลิงกว่า 1 ชม.เพลิงจึงอยู่ในวงจำกัด ซึ่งก็เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปกว่า 5 หลังคาเรือน และมีผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ป่วยติดเตียง อยู่ 2 ราย  ญาติ ๆ ได้นำตัวออกมาได้อย่างหวุดหวิด และส่วนใหญ่ จะเป็นบ้านที่แบ่งเป็นห้อง และมีผู้อาศัยมาเช่าอยู่

นางจริยา  ทองปาย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70  ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านเช่า กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุตนอยู่ในห้อง กับญาติซึ่งพิการเดินไม่ได้ ได้กลิ่นเหมือนยางไหม้ และสักพัก ก็มีเปลวไฟแลปออกมาจากห้องข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องเช่าที่มีนางบุปผา เช่าอยู่ และลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนจึงพาญาติที่ป่วยติดเตียงออกมา ไม่ได้ขนของอะไรออกมาเลยทรัพย์สินวอดไปกับกองเพลิง 

ส่วนบ้านของนายทองพูล สินใจ ซึ่งเป็นบ้านหลังไม้ใหญ่ อยู่อาศัยกัน 3 ครอบครัว จำนวน 10 คน ก็ไม่ได้ขนของออกมาเลย เพราะเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นบ้านไม้ เก่า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี นางพะเยาว์ สิงห์ทอง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี ซึ่งก็สูญเสียบ้านไปในกองเพลิงทั้งหลัง บอกกับผู้สื่อข่าวว่าบ้านที่เป็นตนเพลิง เป็นห้องเช่า และจะเก็บของเก่ามาสะสมไว้ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ต่อเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ 

 

อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ ตร.พิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบสวนอีกครั้ง และค่าเสียหายก็ยังประเมินไม่ได้ และ จุดที่เกิดเหตุก็อยู่ติดกับจุดที่เคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้วเมื่อปีก่อนครั้งหนึ่งแล้ว