วันที่ 22 ม.ค.2567 จากกรณีมีเสียงคัดค้านของประชาชนในพื้นที่จ.ระนอง และ ชุมพรบางส่วน ผู้ซึ่งอาจได้รับผลกระทบ จากโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ “แลนด์บริดจ์” และยังมีประเด็นที่จากกรณีที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ทบทวนรายงานการศึกษา รับฟังประชาชนให้มากขึ้น เพื่อจะได้รับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนที่แท้จริง
ล่าสุด นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ให้ความเห็นว่า ผลการศึกษาดังกล่าว จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสมาชิกแต่ละคน สามารถแสดงความเห็นได้อย่างกว้างขวาง หาสภาฯให้ความเห็นชอบ ก็ส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรีตามลำดับ
ส่วนความเห็นของนางสาวศิริกัญญา ที่ระบุว่า รายงานการศึกษาดังกล่าว ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่รัฐบาลจะดำเนินการ เช่น เรื่องการวางท่อน้ำมันนั้น นางมนพร ยืนยันว่าอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งนางสาวศิริกัญญาอาจไม่ได้ดูข้อมูลปัจจุบัน ไปดูผลการศึกษาในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ดังนั้น การที่ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาใหม่ ก็เพื่อต้องการความเห็นปัจจุบัน วันนี้โลกเปลี่ยนไปความต้องการของประชาชนก็เปลี่ยนไป
นางมนพร ยืนยัน รัฐบาลยินดีรับฟังทั้งความเห็นร่วมและความเห็นต่าง และ ไม่ใช่เพียงแค่ไปสบตาประชาชน แต่รัฐบาลยังเปิดหูเปิดตารับฟังอีกด้วย
นางมนพร ย้ำว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดระนอง มาเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยเตรียม นำตัวแทนผู้เห็นต่าง เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอความเห็น หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.สัญจร ในวันพรุ่งนี้
"เรากล้าสบตาประชาชน และ จะเปิดหูเปิดตา ในการรับฟังความเห็นทุกความเห็น" นางมนพร กล่าว
สำหรับทางออกของกลุ่มประมงพื้นบ้านที่กังวลผลกระทบต่ออาชีพ จากโครงการ “แลนด์บริดจ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบบ้าง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีทางออก
นางมนพร กล่าวว่า แม้โครงการ “แลนด์บริดจ์” จะถูกลากมาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่รัฐบาลก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ตอบข้อมูลทางวิชาการ และ ความต้องการของประชาชน เปิดกันให้เห็นว่า เมื่อโครงการนี้มาถึง ประชาชนสูญเสียอะไร ประชาชนจะได้อะไร และ ประเทศชาติได้อะไร