“ราชมงคลพระนคร” เปิดบ้าน พร้อมเปิดกว้างสู่ทุกโอกาสในสังคมเมือง

 

19 ปี เปิดบ้านราชมงคลพระนคร “RMUTP Open House 2024 : เปิดกว้างสู่ทุกโอกาสในสังคมเมือง”  มุ่งผลิต “นวัตกรพระนคร" รองรับการขยายตัวของสังคมเมืองสมัยใหม่ และความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฯ จัดงานครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา ในวันที่ 18 มกราคม 2567 โดยในปีนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ของราชมงคลพระนคร ภายใต้วิสัยทัศน์ (Vision) "มหาวิทยาลัยแห่งเทคโนโลยีนวัตกรรม และการบูรณาการ” ที่มุ่งผลิตและพัฒนากำลังคนให้พร้อมเป็น “นวัตกรพระนคร” ที่มีความรอบรู้ มีความสามารถในการปรับตัว และรับมือกับความท้าทายได้อย่างรวดเร็ว ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงจุดแข็งของมหาวิทยาลัย ด้านการผลิตบัณฑิตที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรม และสถานประกอบการ  รวมถึงการเปิดกว้างโอกาสทางการศึกษา              

โดยปีนี้มหาวิทยาลัยฯ มีเป้าหมายในการพัฒนากำลังคนทักษะสูงสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สนองนโยบายของรัฐบาล และมีความรอบรู้ มีความสามารถในการปรับตัวรองรับการขยายตัวของสังคมเมืองสมัยใหม่ใน 4 ด้าน ได้แก่ 1.นวัตกรรมอาหาร  2.นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน 3.เศรษฐกิจดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ และไอซีที  และ 4.นวัตกรรมเพื่อสังคมสูงวัย ตลอดระยะเวลา 19 ปี มหาวิทยาลัยฯ มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนแห่งอนาคต (Future Workforce) โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอน ตลอดระยะเวลาการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนักศึกษาจะได้เรียนรู้ผ่านโลกการทำงานจริง อีกทั้งมหาวิทยาลัยยังเสริมสร้างความเข้มแข็งของหลักสูตรด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการกับภาคอุตสาหกรรมชั้นนำระดับประเทศมากมาย ให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะจากผู้มีประสบการณ์จริง เพื่อมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน  นอกจากนี้ยังยกระดับการศึกษา

ปีนี้ยังคงเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ ผ่านการจัดงาน “ราชมงคลพระนคร เปิดกว้างทุกโอกาสในสังคมเมือง” RMUTP  Open House : Opportunity Unlocked  ไปเมื่อวันที่17-19 ม.ค.67 ที่ผ่านม ณ ศูนย์พณิชยการพระนคร  โดยมหาวิทยาลัยมีแนวคิดในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาให้มากยิ่งขี้น  นั่นก็คือการมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ โดยกลุ่มแรก คือ วัยแรงงาน ที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตน ต้องการเปลี่ยนอาชีพ สามารถเข้ามาเรียนเสริมสร้างทักษะอาชีพใหม่ upskill & reskill ผ่านหลักสูตรระยะสั้นของมหาวิทยาลัยที่เปิด อาทิ การจัดดอกไม้ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า เป็นต้น  รวมถึงการเปิดโอกาสให้แรงงานที่จบการศึกษาวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) มัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า ได้มาศึกษาต่อให้มีคุณวุฒิที่สูงขึ้น และมีทักษะที่ตอบโจทย์ความต้องการของสถานประกอบการ ปรับตัวทำงานร่วมกับนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มเปราะบาง และผู้พิการ 

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยฯ ได้ทำความร่วมมือกับเครือข่าย สมาคมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้ด้อยโอกาส  และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามศักยภาพ โดยเปิดรับผู้พิการ ทางหู ตา หรือร่างกาย ที่สนใจเข้ามาศึกษาต่อทั้งหลักสูตรระยะสั้น หรือระดับปริญญา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่เข้าเรียนจนถึงปริญญาตรี พร้อมทั้งการได้รับเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาตามมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา พร้อมจัดสรรทุนการศึกษา และหลักสูตรต่าง ๆ ที่เหมาะสมตามบริบทแต่ละบุคคล อาทิ หลักสูตรโอเปอเรเตอร์ สำหรับผู้พิการทางสายตา เป็นต้น  “ระบบของเราสามารถที่จะให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ความคาดหวังของเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนต้องจบปริญญา แต่เราต้องการให้ทุกคนมีวิชาชีพติดตัวผ่านการเรียนหลักสูตรระยะสั้น เช่น ทำอาหาร  ซึ่งสามารถนำองค์ความรู้นั้นไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ แต่หากในอนาคตต้องการจะเข้ามาศึกษาต่อก็นำองค์ความรู้ที่เรียนไปเทียบโอนปรับวุฒิได้เช่นกัน” อธิการบดี กล่าว

“ภายใต้ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยฯ มาจากความร่วมมือร่วมใจจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร ดังนั้นมหาวิทยาลัยฯ จึงให้ความสำคัญกับบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่มหาวิทยาลัย บุคคลดีเด่น ศิษย์เก่าดีเด่น โดยการมอบรางวัลอันทรงเกียรติ จำนวนทั้งสิ้น 94 รางวัล ซึ่งรางวัลดังกล่าวจะเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำคุณประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยและสังคม ตลอดจนให้การสนับสนุน และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยทั้งในฐานะศิษย์เก่า และบุคลากรที่ทรงคุณค่า” อธิการบดี กล่าว