"กรมการจัดหางาน" แนะแรงงานพัฒนาทักษะ-ภาษา อัพค่าแรง

กรมการจัดหางาน แนะแรงงาน พัฒนาทักษะ-ภาษา อัพค่าแรง

คนไทยที่ลักลอบเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทยอีกด้วย นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึง แรงงานที่อยู่ในเกาหลีใต้มีทั้งถูกและผิดกฎหมายรวมกัน ประมาณ 157,000 คน ทำงานในภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก และภาคการเกษตร เกาหลีเป็นประเทศที่แรงงานไทยให้ความสนใจ เพราะอัตราค่าแรงค่อนข้างสูง คนงานท้องถิ่นไม่ค่อยทำงานบางประเภท เช่น 3 D หรืองานสกปรก อันตราย แรงงานไทยจึงต้องการเดินทางเข้าไปทำงานในเกาหลี ทั้งในรูปแบบที่ถูกและผิดกฎหมาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมามากทั้งในเรื่องของตลาดแรงงานทำให้ถูกตัดสิทธิ์แรงงานไทยที่จะเข้าไปทำงานอย่างถูกต้องในปีต่อ ๆ ไป และผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลี ถูกสกัดกั้นและถูกผลักดันให้เดินทางกลับประเทศทันที ผลจากที่มีผีน้อยจากประเทศไทยค่อนข้างมาก

ส่วนมาตรการในการแก้ปัญหา กรมการจัดหางานมีด่านตรวจคนหางาน ประจำอยู่ที่ท่าอากาศยานทั่วประเทศ จุดใหญ่ที่สุวรรณภูมิและดอนเมือง มีเจ้าหน้าที่สกัดกั้นแรงงานที่จะเดินทางออกไปทำงานผิดกฎหมาย และมีการระงับการเดินทาง โดยประสานกับตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หากมีข้อสงสัยก็จะส่งให้กรมการจัดหางานตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบแล้วเบื้องต้นไม่สามารถแสดงหลักฐานที่แน่ชัดว่าจะไปท่องเที่ยว จะมีการระงับการเดินทางสำหรับคนกลุ่มนี้ ซึ่งในการตรวจสอบก็มีขั้นตอนและวิธีการที่รัดกุม

ขณะเดียวกันรักษาตลาดแรงงานเดิม ซึ่งเป็นตลาดแรงงานหลักของไทย โดยการเจรจากับหน่วยงานภาครัฐเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมากขึ้น และร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการจ้างแรงงานไทยตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มแรงจูงใจในการจ้างแรงงานไทยของนายจ้าง ได้แก่ การจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ซึ่งไทยได้รับโควตาในประเภทกิจการ อุตสาหกรรม เกษตรและปศุสัตว์ ก่อสร้าง ประมง รวมถึงการขยายตลาดแรงงานใหม่ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายตลาดและเพิ่มความต้องการจ้างแรงงานไทยมากขึ้น

รวมถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการจัดส่งแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาล รองรับแรงงานที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ซึ่งมีอัตราค่าจ้างที่ใกล้เคียงกัน หรืออาจจะสูงกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับแจ้งความต้องการแรงงานไทยจากนายจ้าง หากฝ่ายแรงงานฯ ได้รับแจ้งและตรวจรับรองเอกสารประกอบด้วยหนังสือมอบอำนาจ หนังสือแจ้งความต้องการ แรงงาน และสัญญาจ้างเรียบร้อยแล้วจะส่งให้กรมการจัดหางานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

“กรมการจัดหางานจะประสานสถานฑูตเกาหลีประจำประเทศไทยในการอนุมัติวีซ่า ที่สำคัญจะต้องที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม และอบรมทักษะด้านภาษา วัฒนธรรมก่อนเดินทาง รวมถึงประสานงานการซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูกให้กับแรงงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทางกรมการจัดหางานดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน”

 

ทำงานที่เกาหลีอย่างถูกต้องแล้วได้อะไร

แรงงานจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศ จะได้รับการดูแลทุกเรื่องทั้งเรื่องเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานในเกาหลี ประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิตต่างประเทศและในประเทศ ตามที่กำหนด ส่วนประเทศปลายทางจะมีเรื่องของการประกันสุขภาพ ประกันภัย ซึ่งแต่ละประเทศจะมีกฎเกณฑ์กติกาที่แตกต่างกันไป แต่เกาหลีจะมีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง

บางช่วงเวลารัฐบาลเกาหลีจะประกาศอภัยโทษให้กับแรงงานที่ไปแบบผิดกฎหมาย และให้ออกมารายงานตัว เพื่อจะส่งตัวกลับประเทศโดยไม่ถูกลงโทษ และเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่ถ้าโดนจับและถูกผลักดันออกให้ออกนอกประเทศ แรงงานจะถูกแบล็คลีสต์ ไม่สามารถไปทำงานที่เกาหลีใต้ได้อีกเลย ขอให้แรงงานไทยคอยฟังประกาศจากเกาหลีและกลับเข้าสู่การเดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

หวั่นตลาดแรงงานไทยถูกแย่งตลาด

ต้องยอมรับว่า วันนี้ตลาดแรงงานไทยถูกแย่งตลาดจากหลาย ๆ ประเทศ เช่น ฟิลิปินส์ เวียดนาม บังคลาเทศ ซึ่งบางประเทศต้องการจ้างแรงงานต่างชาติในอัตราถูก จนแรงงานไทยไม่สามารถรับได้ บางประเทศจ้างคนรับใช้ในบ้านหมื่นกว่าบาท ถ้าอยู่ในเมืองไทยอาจจะหาได้มากกว่านั้น และไม่ใช่แรงจูงใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ไทยถูกแย่งตลาด อีกส่วนหนึ่งแรงงานไทยมีข้อจำกัดทางด้านภาษา ทำให้แรงงานไทยแข่งขันกับประเทศอื่นค่อนข้างยาก โดยเฉพาะฟิลิปินส์ ที่มีศักยภาพทางด้านภาษาค่อนข้างดี และมีขั้นตอนการดำเนินการที่รวดเร็ว ซึ่งไทยจะต้องมาปรับปรุงในส่วนนี้เพื่อให้การจัดส่งมีความรวดเร็วทันต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศ

แรงงานเตรียมพร้อมอย่างไร

ภาษาเป็นอันดับแรก สองทักษะฝีมือ แรงงานที่มีทักษะหรือกึ่งทักษะจะได้ค่าตอบแทนจากนายจ้างในอัตราที่สูง เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และในปี 2567 กระทรวงแรงงานกำลังจะเดินทางไปเจรจาส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) เพื่อขยายตลาดแรงงานไทย และเพื่อให้แรงงานได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศที่มีอัตราค่าจ้างค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามแรงงานที่ต้องการจะไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ติดต่อสอบถามกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ การไปทำงานไม่ถูกต้องตามกฎหมายโอกาสที่จะถูกหลอกลวงมีค่อนข้างสูง และเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งการหลอกลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ถูกกฎหมายมีหลายช่องทางทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง รวมถึงการหลอกลวงในสื่อโซเชียลต่าง ๆ การเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้สอบถามกรมการจัดหางาน ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงก่อนเป็นอันดับแรก

 

#กรมการจัดหางาน #แรงงาน #อัพค่าแรง