วันที่ 21 ม.ค.2567 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สว.เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า รัฐบาลเข้าใจในการทำหน้าที่ของสว.ที่กำลังจะหมดวาระลงไป สิ่งใดที่จะทำเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงการทำหน้าที่ของสว.ในวาระท้ายๆ สว.คงต้องทำ แต่ขอให้เป็นการอภิปรายเพื่อให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลจริงๆ ประชาชนที่ติดตามรับฟังจะสามารถตัดสินใจได้เองว่าช่วงระยะเวลา 3 เดือนกว่าที่รัฐบาลเข้ามาทำงาน รัฐบาลได้แก้ปัญหา ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้มาก ทั้งที่งบประมาณปี 2567 ยังไม่ผ่าน แต่รัฐบาลก็สามารถผลักดันสร้างผลงานที่จับต้องได้มากมาย ทั้งการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับประชาชน

ถ้าสว.บางท่านจะมาอภิปรายกันแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม เอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง ทำหน้าที่แบบค้านสายตาประชาชน ก็จะเป็นการอภิปรายที่ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร รวมถึงกรณี พรรคฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ก็ไม่มีอะไรที่รัฐบาลต้องวิตกกังวล เพราะเป็นการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิรับรองไว้ มีประเด็นใดที่ฝ่ายค้านต้องการคำอธิบาย รัฐบาลก็พร้อมทำหน้าที่มาตอบข้อซักถามนั้น เป็นห่วงแต่ผู้อภิปรายของฝ่ายค้านมากกว่าเสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่สารภาพเองว่ามีปัญหากันนั้นได้รับการแก้ไขหรือยัง ผู้อภิปรายจะหาประเด็นอะไรใหม่ๆมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะหากติดตามจากการอภิปรายงบประมาณปี 2567 ก็ไม่มีอะไรที่รัฐบาลชี้แจงไม่ได้ อีกทั้งนิด้าโพลก็สะท้อนความคิดเห็นประชาชนกรณีอดีตนายกฯทักษิณนั้นไม่ส่งผลต่อความอยู่รอดของรัฐบาล

"การที่รัฐบาลทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชนตั้งแต่ฐานราก ควบคู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองก็มีความคืบหน้าไปมาก เชื่อว่าคะแนนนิยม ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก รัฐบาลเศรษฐา มีเวลา 4 ปีในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา เคารพซึ่งกันและกัน เชื่อว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างดี" นายอนุสรณ์ กล่าว