เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่อาคารอเนกประสงค์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากโครงการตามพระราชดำริ โดยมีผู้เรียนหลักสูตรรวมมิตร และมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย 

 

ทั้งนี้พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ และภาคกลุ่มภาคเอกชน ธนาคาร นักธุรกิจ ซีอีโอ เจ้าสัวเครือต่างๆ จากโครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหาร ระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือนักเรียนกลุ่มรวมมิตรได้มอบเครื่องวัดความชื้นของน้ำผึ้งและเครื่องวัดความชื้นในน้ำผึ้ง ให้แก่โครงการพัฒนาพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระพระราชดำริ 

 

โดยพล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมอุตสาหกรรมระดับชุมชนและภูมิภาค ให้สามารถเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และการที่ได้มารู้มาสัมผัส และบรรยากาศด้วยตนเอง จะนำแนวคิดของนายกฯ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมชุมชน และยืนยันได้ว่า จะร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ร่วมกับรัฐบาลนำไปต่อยอดขยายผล ให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมต่อไป พร้อมระบุว่า กลุ่มรวมมิตรทุกคนเป็นกำลังใจให้นายกฯ ทำงานเพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโต ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของประเทศต่อไป เพื่อให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ

 

นายกได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น   ผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งโพรงจากดอกกาแฟ ซึ่งนายกฯกล่าวว่า จะซื้อผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งฯ และไม่ได้ซื้อแค่ล็อตเดียวแต่จะซื้อตลอดไป 

 

นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนป่าต้นผึ้ง  ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรสารจากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากเมี่ยงและผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จากใบไม้ และยังได้เซ็นชื่อลงในจานเครื่องปั้นศิลาดลที่มีภาพของตัวเองอุ้มช้างที่ทำจากศิลาดล ซึ่งเป็นภาพเมื่อครั้งที่นายกฯเคยลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่     ก่อนมอบพันธุ์ปลาให้กับทางจังหวัด

 

ช่วงหนึ่งนายกฯได้แวะชิมน้ำอัญชันมะนาว และได้เรียกบรรดานักธุรกิจที่ร่วมคณะโดยแนะนำให้บางกอกแอร์เวย์นำเซิร์ฟบนเครื่องบินด้วย จากนั้นนายกฯหยอกล้อติดตลกว่าตอนนี้เลิกกินเฉาก๊วยแล้วเพราะมีสุนัขที่บ้านชอบกินเฉาก๊วย ก่อนเยี่ยมชมการแบ่งกลุ่มเวิร์คช้อปของกลุ่มรวมมิตรกับเกษตรกร ที่นำผลิตภัณฑ์การเกษตรมาแปรรูป อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูปประเภท กระเทียม มะม่วง ผักกาดเขียว ผลิตภัณฑ์แปรรูปประเภทอ้อย ผลิตภัณฑ์แปรรูปประเภทเห็ดสมุนไพร เป็นต้น 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเวิร์คช็อปนายกฯได้รับการร้องขอจากชุมชนและตัวแทนกลุ่มรวมมิตรว่า สิ่งที่ติดขัดตอนนี้คือเรื่องของแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคเรื่ององค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งทำให้การตลาดยังมีปัญหาในเรื่องของมาตรฐาน ทำให้เกิดปัญหาในการนำผลิตภัณฑ์ไปเสนอขาย ซึ่งนายกฯได้รับปากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเร่งบูรณาการ พร้อมยอมรับว่าในเรื่องของ อย.มีปัญหามาก โดยเฉพาะเรื่องขั้นตอนต่างๆ ส่วนเรื่องแหล่งเงินทุน ได้มอบหมาย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ดูแล และจะมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เข้ามาดูแลในเรื่องการหาแหล่งเงินทุนให้ 

 

ภายหลังชมการทำเวิร์คช็อป นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการบริหารคิงพาวเวอร์  ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี  ที่ได้นำกลุ่มรวมมิตรมารับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้ผลิตโดยตรงซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเราในฐานะภาคธุรกิจ เรามีโอกาสที่จะช่วย อย่างเช่นการแปรรูปสินค้าเกษตรก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกมาก อีกทั้งผลิตภัณฑ์ก็จะไม่เน่าเสีย  หากสามารถนำทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ก็จะสามารถช่วยเกษตรกรพัฒนาสินค้าได้มากขึ้น  และขอบคุณนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ที่ได้พาพวกเรามาช่วยพัฒนากลุ่มชุมชนและหวังว่าจะได้ช่วยเหลือตรงนี้เพิ่มขึ้น

 

ด้านนายกฯ กล่าวขอบคุณสมาชิกกลุ่มรวมมิตรทุกคน คำพูดหลักก็คือเรื่องของโอกาส ซึ่งตนเชื่อว่าชุมชนพื้นที่แห่งนี้ต้องการแค่โอกาส การลงพื้นที่ครั้งนี้ที่มี นักธุรกิจระดับท็อปจากทั่วประเทศเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านการค้าขาย เชื่อว่าจะเป็นการสร้างให้กับเกษตรกรในชุมชนอย่างมาก  ตนดีใจและขอขอบคุณจากใจจริงที่ทุกคนสละเวลามาช่วยดูแลชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อสร้างโอกาส

 

จากนั้นนายเศรษฐา แถลงว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ขอใช้คำว่าสังคมไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นแนวคิดของรัฐบาลนี้ร่วมกับผู้อำนวยการหลักสูตรรวมมิตร ซึ่งเราได้มาร่วมมือกันในวันนี้เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนและช่วยเหลือสินค้าในโครงการพระราชดำริ ต้องขอท้าวความตอนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารจัดการประเทศเราได้มาเยี่ยมชมโครงการห้วยฮ่องไคร้ โดยมากับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และเห็นศักยภาพของโครงการพระราชดำริว่าสามารถที่จะต่อยอดทำอะไรได้อีกเยอะ เป็นโครงการที่ดีแต่ยังขาดทำการตลาด พอดีผู้อำนวยการหลักสูตรรวมมิตรได้เชิญตนไปพูดที่หลักสูตร ซึ่งตนก็บอกว่าได้แต่ขอให้ตนมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรนี้ไปด้วย จึงได้เรียนเชิญคณะนักเรียนนักศึกษา ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งหลายได้สละเวลา ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่สุดของเขาให้มาลงพื้นที่พระราชดำริให้มาเข้าใจและศึกษาปรัชญาในการทำโครงการพระราชดำริ และเข้าใจความต้องการของพี่น้องประชาชนหลายๆท่านที่ประสบปัญหาอยู่ และยังไม่สามารถไปถึงศักยภาพที่เขาสามารถไปได้ ซึ่งส่วนมากในเรื่องของการทำตลาด วันนี้จึงได้มาพูดคุยกัน ทางนักศึกษารวมมิตรก็มาทำเวิร์คช้อปและหาทางออกให้กับพี่น้องที่ทำการค้าขายทางด้านสินค้าเกษตรได้เยอะมาก 

 

นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่หลักสูตรต่างๆน่าจะเอาไปพัฒนา และเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างในการที่จะทำเรื่องนี้กันต่อไป ซึ่งสินค้าในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น OTOP สินค้าโครงการพระราชดำริหรือสินค้าพี่น้องประชาชนคนไทยในหลายจังหวัดมีศักยภาพสูง มีความต้องการสูง แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้ ฉะนั้นที่เรายืนอยู่บนเวทีนี้เชื่อว่าจะสามารถเปิดตลาดโลกให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนได้ ดังนั้นต้องขอบคุณข้าราชการทุกท่าน ผู้อำนวยการฯนักเรียนร่วมมิตรทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนในวันนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนคณะนายกฯมาถึง ได้มีกลุ่มเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม-เงา-เมย-สาละวิน ​ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อ​ขอให้เพิกถอนโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม – อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล  และขอให้เพิกถอนรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม – อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และขอให้ยุติการดำเนินการทุกโครงการที่เกี่ยวข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องเพื่อดำเนินการต่อไป