นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายประทีป หนูวรรณะ สหกรณ์จังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบข้าวสารตามบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าวนาแปลงใหญ่ กับบริษัทไทยโตเคนเทอร์โม จำกัด ณ โรงสีข้าวชุมชนตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 64,203.41 ไร่ โดยปลูกข้าว 3 กลุ่ม คือ ข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 16,170.41 ไร่ ข้าวปทุมธานี 1 จำนวน 8,757 ไร่ และข้าวเจ้าอื่นๆ จำนวน 39,276 ไร่ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอพนัสนิคม ปริมาณผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทั้งข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเจ้าอื่นๆ กว่า 10,000 ตัน ซึ่งเมื่อเทียบกับประชากรจังหวัดชลบุรีมีความเพียงพอต่อการบริโภคและปริมาณข้าวไม่ล้นตลาด ซึ่งส่วนหนึ่งโรงงานอุตสาหกรรมก็ได้ช่วยสนับสนุนข้าวชาวนาไปเลี้ยงคนงานในโรงงานเนื่องจากจังหวัดชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรม
นายประทีป หนูวรรณะ สหกรณ์จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการแปลงใหญ่ด้านการตลาด ได้มีการดำเนินการทำบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา กับบริษัทไทยโตเคนเทอร์โม จำกัด ตั้งอยู่ ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร โดยในข้อตกลงมีร่วมซื้อขายข้าวสาร ชนิดข้าวหอมมะลิ ปริมาณ 60 ตันต่อปี ราคากิโลกรัมละ 32.50 บาท นอกจากนี้ ยังมีฐานทัพเรือสัตหีบช่วยชาวนาซื้อข้าวอีกจำนวน 2 ตัน และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี ได้นำข้าวไปจำหน่ายในงานจำหน่ายข้าวสารเพื่อช่วยเหลือชาวนาจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ณ บริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป
นายดิลก พวงภู่ ประธานกลุ่มชาวนาตำบลหนองปรือ กล่าวว่า กลุ่มชาวนามีความตั้งใจผลิตข้าวให้มีคุณภาพ ทานอร่อย ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ข้าวไรซ์เบอรี่ อุดมไปด้วยประโยชน์ ข้าวกล้องหอมมะลิ คงไว้ซึ่งจมูกข้าว ข้าวหอมมะลิพนัสฯ ตราปลาตะเพียนสานสีทอง อีกทั้งได้รับการช่วยเหลือโดยมีการบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจังหวัดชลบุรี สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี สำนักานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ส่วนท้องถิ่น และทหาร ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้มีช่องทางการตลาดที่แน่นอน สมาชิกกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่จำหน่ายได้ราคาสูงกว่าท้องตลาด ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 64,203.41 ไร่ โดยปลูกข้าว 3 กลุ่ม คือ ข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 16,170.41 ไร่ ข้าวปทุมธานี 1 จำนวน 8,757 ไร่ และข้าวเจ้าอื่นๆ จำนวน 39,276 ไร่ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอพนัสนิคม ปริมาณผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทั้งข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเจ้าอื่นๆ กว่า 10,000 ตัน ซึ่งเมื่อเทียบกับประชากรจังหวัดชลบุรีมีความเพียงพอต่อการบริโภคและปริมาณข้าวไม่ล้นตลาด ซึ่งส่วนหนึ่งโรงงานอุตสาหกรรมก็ได้ช่วยสนับสนุนข้าวชาวนาไปเลี้ยงคนงานในโรงงานเนื่องจากจังหวัดชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรม
นายประทีป หนูวรรณะ สหกรณ์จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการแปลงใหญ่ด้านการตลาด ได้มีการดำเนินการทำบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา กับบริษัทไทยโตเคนเทอร์โม จำกัด ตั้งอยู่ ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร โดยในข้อตกลงมีร่วมซื้อขายข้าวสาร ชนิดข้าวหอมมะลิ ปริมาณ 60 ตันต่อปี ราคากิโลกรัมละ 32.50 บาท นอกจากนี้ ยังมีฐานทัพเรือสัตหีบช่วยชาวนาซื้อข้าวอีกจำนวน 2 ตัน และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี ได้นำข้าวไปจำหน่ายในงานจำหน่ายข้าวสารเพื่อช่วยเหลือชาวนาจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ณ บริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป
นายดิลก พวงภู่ ประธานกลุ่มชาวนาตำบลหนองปรือ กล่าวว่า กลุ่มชาวนามีความตั้งใจผลิตข้าวให้มีคุณภาพ ทานอร่อย ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ข้าวไรซ์เบอรี่ อุดมไปด้วยประโยชน์ ข้าวกล้องหอมมะลิ คงไว้ซึ่งจมูกข้าว ข้าวหอมมะลิพนัสฯ ตราปลาตะเพียนสานสีทอง อีกทั้งได้รับการช่วยเหลือโดยมีการบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจังหวัดชลบุรี สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี สำนักานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ส่วนท้องถิ่น และทหาร ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้มีช่องทางการตลาดที่แน่นอน สมาชิกกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่จำหน่ายได้ราคาสูงกว่าท้องตลาด ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย