ญาติร่ำไห้ รับศพเหยื่อโรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พม. เตรียมทำบุญ 7 วัน ให้ 23 ศพ เหตุโรงงานพลุระเบิด พร้อมเยี่ยมเด็กสูญเสียพ่อแม่ มท.1 ระบุโรงงานพลุระเบิด ไม่ใช่โรงงานเถื่อน มีใบอนุญาตประกอบการ สงสัยมีการ ล้ำเส้น ระเบียบความปลอดภัยหรือไม่ ด้าน ตร.ยังไม่สรุปสาเหตุ


     
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 25 ราย เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
    
 ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ลำเลียงศพผู้เสียชีวิต ไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และเก็บดีเอ็นเอญาติผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีญาติของผู้เสียชีวิต ต่างเดินทางมารอรับศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้ปริมจะขาดใจ
   
  ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ หัวหน้าชุด ผบช.สพฐ.ตร. เปิดเผยว่า ในการพิสูจน์หลักฐานที่เกิดเหตุ ได้ระดมทีมตรวจพิสูจน์ทั้งหมด 4 ทีม โดยจะจัดเก็บเพื่อหาสาเหตุของการระเบิด โดยกลุ่มงานเคมีฟิสิกส์จะจัดทีมมาอีก 4 ทีมจาก นั้นก็จะรายงานออกมาว่าเหตุระเบิดเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้ประเมินว่า สาเหตุเกิดจากอะไร 
     
 ส่วน นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 23 ม.ค.นี้ ทางกระทรวงฯ เตรียมทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต ในห้วงเวลาครบ 7 วัน บริเวณที่เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด หมู่ที่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยมี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานพิธี และภายหลังเสร็จ พิธีทำบุญแล้ว น.ส.กัญจนาและคณะจะเดินทางไปเยี่ยมเด็กและเยาวชน จำนวน 3 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบสูญเสียทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน 
    
 ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าว ถึงกรณีที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเรียกร้องให้แก้ระเบียบการขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตพลุดอกไม้ไฟทั่วประเทศใหม่ หลังเกิดโรงงานพลุระเบิดหลายครั้ง ที่อาจจะอยู่นอกเหนือการตรวจสอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทยเอง เป็นผู้ที่ออกใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานด้วย ว่า กำลังเร่งศึกษาอยู่ เพราะกว่าจะได้ใบอนุญาตต้องผ่านขั้นตอนเยอะ โรงงานพลุที่จ.สุพรรณบุรี ก็ใช้เวลา 2 ปี เพราะต้องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานกระทรวงกลาโหมในการนำวัตถุไวไฟ วัตถุคล้ายระเบิดที่ปะทุได้มาใช้ ในวันนี้ตนจะลงพื้นที่ เวลา 15.00น.นี้ ก็จะไปดูว่าจุดเกิดเหตุ ที่ไม่ใช่โรงงานผลิต แต่เป็นโรงเก็บพลุ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มีรั้วรอบขอบชิด แต่ทำไมถึงระเบิดได้และทำไมถึงมีคนอยู่ในนั้นถึง 30 คน
     
  ส่วนเรื่องใบอนุญาต เชื่อว่าได้มีการเขียนกำกับไว้ว่ามีข้อห้ามข้อปฏิบัติอย่างไรไม่ให้เกิดความเสี่ยง ตรงนี้อาจจะมีการทำอะไรที่นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 
     
เมื่อถามว่า จะมีการกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะไปโทษผู้ว่าฯ หรือเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เพราะโรงงานพวกนี้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ การกำชับผู้ว่าฯ ต้องดูในส่วนใบอนุญาตหรือพวกภูมิปัญญาชาวบ้าน อาจจะต้องสั่งห้ามเพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะความจริงวิถีชีวิตชาวบ้านที่ทำพุ ตะไล ทำเพื่อไล่นก ไล่กา ที่จะมาทำลายผลผลิตทางการเกษตร แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีใบอนุญาตไม่สามารถทำได้แน่นอน ซึ่งจะต้องไปไล่ตรวจดู อีกทั้งตอนนี้ทุกจังหวัดทำการสำรวจโรงงาน และตนได้รับรายงานหลายจังหวัดว่าได้ไปสำรวจโรงงานทำพลุ ทำดอกไม้ไฟ ทุกอย่างยังทำตามขั้นตอนและอยู่ในระเบียบ แต่กรณีนี้ส่วนตัวคิดว่าจะต้องมีอะไรที่ล้ำเรื่องความปลอดภัยอย่างแน่นอน ถึงเกิดเหตุรุนแรงได้ขนาด