จากกรณี เพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ กล้องวงจรปิดนาทีเฉียด พร้อมกับข้อความ เตือนภัย ระบุว่า วันที่ 15 ม.ค. 67 บริเวณเครื่องกั้นถนน กม.141+790 ของสถานีบางละมุง จ.ชลบุรี (มีพนักงานกั้นถนน มีระบบอาณัติสัญญาณ ป้ายเตือน ไฟกะพริบครบถ้วน) เวลา 11.25 น. พนักงานกั้นถนนได้ทำการลงเครื่องกั้นถนนเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้รถจักรดีเซลเปล่าจากสถานีมาบตาพุด - ศรีราชา ทำขบวนวิ่งผ่าน เกิดเหตุ มีผู้ขับขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง ขับเข้ามาชนเครื่องกั้นถนนในบริเวณดังกล่าว และเกือบเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักร เหตุการณ์นี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ การรถไฟฯ ขอความร่วมมือผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะผ่านจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ โปรดใช้ความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด สังเกตสัญญาณหรือป้ายเตือนต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวท่านเอง ด้วยความปรารถนาดีจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย
ล่าสุดวันที่ 17 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณทางข้ามทางรถไฟ บ้านหนองมะนาว ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หรือ สถานีควบคุมสัญญาณไม้กั้นถนนรถไฟ บางละมุง กม.ที่ 141+790 โดยได้พูดคุยกับ นายสิทธิศักดิ์ แพ่งยัง อายุ 41 ปี จนท.ประจำสถานี เล่าว่า โดยวันเกิดเหตุ ขณะที่ระบบไม้กั้นกำลังทำงาน เพื่อให้หัวจักรดีเซล แล่นผ่าน ปรากฎว่า จู่ๆ ก็มีคนขี่รถจักรยานพ่วงข้าง (ซาเล้ง) พยายามจะขี่ฝ่าไม้กั้น จนหน้าไปฟาดเข้ากับไม้กั้น (เป็นแท่งเหล็กทั้งแท่ง ) หงายท้องไม่เป็นท่าคารถพ่วงข้าง ซึ่งในจังหวะนั้นรถไฟแล่นผ่านพอดี แต่ด้วยความโชคดี ช่วงบริเวณจุดข้ามทางรถไฟ จักรยานยนต์พุ่งชนไม้กั้นเป็นเนินสูง ทำให้รถพ่วงข้างไหลถอยหลัง จนเฉียดตายอย่างหวุดหวิด พร้อมทั้งอยากฝากถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ขอให้เคารพกฎจราจร รวมถึง สัญญาณเตือนของทางการรถไฟ และ ไม่อยากให้ผู้ใดฝ่าฝืน เพราะพวกคุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับชายรายนี้
ผู้สื่อข่าวได้พยายามตามหา ชายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างดังกล่าว เบื้องต้นทราบชื่อว่า ลุงสมพงษ์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านอยู่ในละแวกดังกล่าว แต่ยังไม่พบตัว โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะเกิดเหตุ คุณลุงน่าจะอยู่ในการเมาสุรา และพยายามขี่ฝ่าไม้กั้น จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และ รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด