จุลพันธ์ยันไม่ลดวงเงินดิจิทัลวอลเล็ตจาก 5 แสนล้าน  เหลือ 3 แสนล้าน "ภูมิธรรม"ยอมรับมีแผนสองหากพรบ.กู้เงินไม่ผ่าน อ้างเลื่อนถกบอร์ดรอความเห็น "ปปช." ประกบ"กฤษฎีกา" ด้าน"สมชาย" เผยเอกสารปปชเตือนรัฐบาลแจก 1 หมื่น เป็นความเสี่ยง แนะให้รัฐบาลถอย  ขณะที่เลขาปปช.บอกเอกสารเตือน ไม่รู้ออกมาจากไหน ย้ำยังไม่ได้สรุป

     
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีหนังสือจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ความเห็นต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขณะนี้เดินทางมาถึงรัฐบาลหรือยัง ว่า ยัง น่าจะอยู่ระหว่างทาง เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลื่อนประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเราต้องรีบฟังอย่างรอบด้าน หากเร่งประชุมก็จะหาว่ารวบรัด จึงรอให้เอกสารเข้ามาให้พร้อม เชื่อว่าคงอีกไม่นาน ต้องนำเอกสารมาดูให้ละเอียด เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณา ทั้งคำตอบของกฤษฎีกา และความเห็นของป.ป.ช. เพื่อจะได้ดำเนินการ ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องได้ถูกต้อง จะได้เดินหน้าโครงการต่อไป
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ก่อน ครม.สัญจรหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ต้องรอดูหนังสือและรายละเอียดอีกที  เมื่อถามว่า คาดว่าจะดำเนินโครงการนี้ภายในเดือนพ.ค. ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า  นาทีนี้ยังตั้งเป้าเช่นเดิม ยอมรับว่าเวลากระชั้น แต่เมื่อมีความเห็นจากกฤษฎีกาและป.ป.ช. ในฐานะกรรมการนโยบายฯ เราก็ต้องรับฟังอย่างรอบด้านว่าข้อแนะนำคืออะไร
    
 เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะมีการลดขนาดโครงการลง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยกันเลย เห็นแค่จากข่าวว่าจะมีการลดวงเงิน 5 แสนล้านบาท เหลือ 3 แสนล้านบาท ยืนยันว่ามีการประชุมเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนอยู่ในเกือบทุกคณะ ไม่มีการพูดคุยในประเด็นนี้ และไม่เคยได้ยินตัวเลข 3 แสนล้านบาท ส่วนจะมีแผนสองหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มี ต้องดูตรงนี้ให้จบเรียบร้อย
    
 เมื่อถามว่า หากออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ไม่ได้ จะพิจารณาเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แทนหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ายังไม่ตัดตัวเลือกการออก พ.ร.ก. ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขอใช้คำว่ายังไม่พิจารณา แต่การออก พ.ร.ก. เป็นอำนาจของรัฐบาลอยู่แล้ว สามารถทำได้ตลอดเวลา แต่ขณะนี้ไม่ได้หยิบยกมาพูดคุย
    
 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง อยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 19-21 ม.ค. โดย นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า การประชุมเลื่อนไปแล้ว รอช่วงสั้นๆเพราะเราได้รับหนังสือมาจากกฤษฎีกาแล้ว และได้ทราบว่าจะมีหนังสือจากป.ป.ช.ด้วย ก็เลยคิดว่าจะเอาทั้ง 2 ฉบับเข้าทีเดียวไม่ต้องประชุมหลายครั้ง เพราะเราไม่รู้ข้อเสนอแนะกับมาตรการต่างๆ ไปด้วยกันหรือเปล่า หรือว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกัน ฉะนั้นวันนี้ทราบมาว่าหนังสือทาง ป.ป.ช.จะมีมา ก็จะรอดูว่ามีอะไรบ้าง และคิดว่าถ้าเรียบร้อยก็จะจัดประชุมทั้ง 2 เรื่องทันที ไม่เช่นนั้นถ้าออกมาตรการจากทางกฤษฎีกาไป หาก ป.ป.ช. มีเห็นต่างเราก็อาจจะติดขัดได้ ก็เลยรออีกสักนิดซึ่งอาจจะดีด้วยถ้านายกฯกลับมาพอดีจะได้ประชุม
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลให้น้ำหนักการเดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ป.ป.ช.จะมีความเห็นมาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีน้ำหนักเท่ากัน ประชาชนเสนอมา การเมืองเสนอ พรรคร่วมฝ่ายค้านหรือพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาก็ให้น้ำหนักเท่ากัน คือจะรับฟังภายใต้เงื่อนไขวัตถุประสงค์ของโครงการ หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และไปไกลจากวัตถุประสงค์ที่จะทำอาจจะต้องพิจารณาให้ความสำคัญในอีกระดับหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องที่ตรงกับวัตถุประสงค์และมีข้อเสนอแนะที่น่ารับฟังก็จะเป็นเรื่องใช้ในการพิจารณาประกอบให้มากขึ้น
   
  เมื่อถามว่า ความเห็นของ ป.ป.ช.จะมาตอนไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าจะมาเร็วๆนี้ เมื่อรับทราบมาเราก็เลยรอ ตนว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ควรรู้แล้ว พอดีนายกฯก็กลับมา และอีก 2 วัน ตนต้องไปสหรัฐอเมริกาและกลับมาใกล้ๆกัน จะพร้อมกันทันทีจะเป็นวันที่ประชุมครม.สัญจร หลังจากนั้นทุกอย่างมันมาก็อาจจะเดินหน้าได้ทุกเรื่องหลังจากครม.สัญจรจะเอาเรื่องเข้า ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและอีกหลายๆเรื่อง
   
  เมื่อถามว่า ถ้าพ.ร.บ.กู้เงินเดินไปไม่ได้รัฐบาลจะมีแผนสำรองอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กรอบใหญ่เราคิดไว้แล้ว แต่รอให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นว่าอะไรเป็นอย่างไร และเราก็แก้จากความเป็นจริงจะดีกว่า อย่าใช้คำว่าถ้าบ่อย คำว่าถ้าบ่อยเป็นการจินตนาการ เราคิดไว้แล้วกรอบต่ำๆจะเป็นอะไรอย่างไร ถ้าได้หรือไม่ได้อะไรก็จะทำอย่านั้น ส่วนถ้ามันเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่รู้ รอให้เกิดขึ้นจริงๆแล้วค่อยมาถามก็ได้
   
  เมื่อถามว่า ถ้าออก พ.ร.บ.กู้เงินไม่ได้ รัฐบาลจะถอยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า ไม่มีถ้า ขอเจอความเป็นจริง ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้หรือไม่เงินกู้ ขอความเป็นจริงตรงนี้ก่อน ตรงนี้ยังไม่ชัดเจนเลยแต่จะให้ตนไปคิดเรื่องอื่น ถ้าคิดไปอาจจะคิดฟรีก็ได้ รอให้ความจริงเกิดขึ้นก่อน หากความเห็น ป.ป.ช.มาถึงจะเปิดเผยหรือไม่นั้นอยู่ที่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารระดับไหน 
   
  ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบาย กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ป.ป.ช.มีข้อเสนอแนะต่อนโยบายเติมเงินฯ ของรัฐบาลเพื่อป้องกันการทุจริต ว่า ตนเห็นรายละเอียดดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นประเด็นที่คณะกรรมการดิจิทัลของรัฐบาลควรรับไปพิจารณาให้ละเอียด และรอบคอบ และต้องพิจารณาควบคู่กับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ได้ตอบคำถามในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ ป.ป.ช.มีข้อเสนอแนะนั้นเป็นประเด็นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตต่อการทำนโยบายของรัฐบาล ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 32 โดยมีรายละเอียดของข้อเสนอแนะที่สำคัญ คือ สถานการณ์ประเทศยังไม่วิกฤต และการทำนโยบายควรมุ่งเน้นกลุ่มเปราะบาง รวมถึงใช้แอพลิเคชั่นเป๋าตังค์แทนใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงคำนึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
     
  ในข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ที่มีจำนวนหน้ากว่า 177 หน้า พบว่ามีข้อเสนแนะอยู่ 58 หน้าที่เหลือนั้นเป็นภาคผนวก ที่ผมมองว่าเป็นส่วนสำคัญ หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการจนเกิดความเสี่ยง หรือการกระทำที่ทำผิดกฎหมาย เอกสารในภาคผนวกนั้นสามารถใช้เป็นเอกสารพยานหลักฐานต่อศาลได้ ซึ่งการเตือนของ ป.ป.ช.นั้น คล้ายกับการวินิจฉัยในโครงการรับจำนำข้าว นายสมชาย กล่าวและว่า  ตนมองว่ารัฐบาลควรเลิกโครงการดังกล่าว 
     
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีมีการเผยแพร่เอกสาร อ้างว่าเป็นของ ป.ป.ช. ต่อนโยบายเติมเงินผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต 1 0,000 บาท ที่ส่งถึงรัฐบาล โดยระบุมี 4 ประเด็นความสุ่มเสี่ยง ทั้งเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย ส่งผลกระทบต่อการคลัง ขัดต่อกฎหมายหลายบท พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะ 8 ข้อ ไปยังรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเน้นย้ำมาตรการป้องกันการคอร์รัปชั่นที่อาจเกิดขึ้นนั้น
    
 ล่าสุด นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวถึงเอกสารที่มีการเผยแพร่ ว่า ไม่ใช่ความเห็นของป.ป.ช.  ไม่ทราบว่ามาจากหน่วยงานใด หรือเป็นความเห็นของคณะทำงานที่รวบรวมความเห็น เพื่อเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่หรือไม่ แต่หากเป็นความเห็นของป.ป.ช. จะต้องผ่านมติของกรรมการเท่านั้น ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการยังไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องรอคณะกรรมการแต่ละคนส่งความเห็นสรุปกลับมา ก่อนมีมติและส่งความเห็นให้รัฐบาล