สุรินทร์ ญาตินายปัญญา หรือเปี๊ยก ที่รับสารภาพเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาตนเอง แต่สุดท้ายตำรวจได้หลักฐานวัยรุ่น 5 คน ลงมือทำร้ายนางบัวผัน จมน้ำเสียชีวิต ญาติเป็นห่วงชีวิตวอนสิ่งศักดิ์คุ้มครองชีวิต


  จากกรณี ที่ตำรวจอรัญประเทศ คุมตัว 5 เยาวชนรุมทำร้ายสาวใหญ่สติไม่สมประกอบจนเสียชีวิต โยนศพทิ้งบ่อน้ำสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพแล้ว สารภาพทำตามเพื่อน ขณะกู้ภัยงมบ่อได้หลักฐานเด็ดมัดตัวผู้ก่อเหตุ ส่วน “ลุงเปี๊ยก” สามีพ้นมลทิน แจงที่สารภาพไปตอนแรกเพราะมึนงงกับคำพูดชาวบ้าน

เหตุเกิดหลังจาก ที่ศูนย์วิทยุกู้ภัยอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพปริศนาตายลอยอยู่ในบ่อน้ำหลังปั๊มน้ำมันเก่าข้างโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย ทราบชื่อคือ น.ส.บัวผัน อายุ 47 ปี ชาว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว สภาพใบหน้าและศีรษะมีบาดแผลคล้ายถูกทำร้ายด้วยของแข็ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา


กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายปัญญา sรือเปี๊ยก อายุ 56 ปี สามีของผู้เสียชีวิตดำเนินคดีหลังสมอ้างว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าภรรยาของตนเอง และได้นำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองอรัญประเทศ และหน้าร้านสะดวกซื้อสี่แยกวัดหลวงอรัญ ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อ 02.00 น.วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาจนพบว่าคนร้ายตัวจริงคือกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 13-16 ปี จำนวน 5 คนที่รุมทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนสลบและลากตัวไปสนามฟุตบอลโรงเรียน เพื่อตีซ้ำจนเสียชีวิตก่อนนำศพโยนทิ้งในบ่อน้ำนั้น

ด้านนายปัญญา หรือเปี๊ยก สามีของผู้เสียชีวิตที่ถูกนำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว หลังสมอ้างว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าภรรยาของตนเองนั้น จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นำหลักฐานส่งให้ศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอให้ปล่อยตัวนายปัญญา ออกจากเรือนจำตั้งแต่เวลา 15.20 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีญาติมารอรับ


ขณะที่พี่สาวและญาติๆ ของ นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก ของอยู่ที่บ้านระเวียง หมู่ที่ 12 ต.ระเวียง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ต่างก็เป็นห่วงความปอลดภัยของนายปัญญา หรือเปี๊ยก เป็นอย่างมาก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาต่างก็มีกระแสข่าวว่า นายปัญญาหรือเปี๊ยก ออกจากเรือนจำสระแก้วแล้วก้เดินทางกลังบ้านที่บ้านระเวียง ต.ระเวียง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน ที่ 141 หมู่ 12 บ้านระเวียง ต.ระเวียง อ.โนนนารายณ์ ก็ไม่พบนายปัญญาหรือลุงเปี๊ยกแต่อย่างใด พบเพียง น.ส.กนกวรรณ อายุ33 ปี หลานลุงเปี๊ยก บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ลุกเปี๊ยกไม่ได้มาที่บ้านระเวียง ทราบจากญาติที่ อรัญประเทศว่า ลุกเปี๊ยกอยู่ที่บ้านลุง ที่อรัญประเทศ ปกติแกก็เป็นดี เรียบร้อย ไม่มีคำว่าเกเร หรือดื้อดาน เคยเจอกัน และเวลาแม่ไปทำงานที่กรุงเทพฯลุกเปี๊ยกก็มาหามาเล่นด้วย ไม่มีท่าทางเกเรหรือเป็นนักเลงแต่อย่างใด พอเห็นเป็นข่าวและถูกจับดำเนินคดี รู้สึกเป็นหวง เมื่อคืนแม่ยังคุยกับลุงเปี๊ยกเรื่องหาข้าวกินข้าวอาบน้ำแล้วไม่ต้องไปไหน วันนี้ก็จะพาไปอาบน้ำมนต์ที่วัดสtเดาะเคราะห์ เมื่อคืนลุ'เปี๊ยกอยู่ที่บ้าน เช้าวันนี้มีตำรวจมารับตัวไป ก็ไม่รู้ว่าเอาตัวไปเรื่องอะไร ถ้าเสร็จแล้วก็จะเอาตัวมาคืน
นายสมบัติ ปัชชา อายุ 67 ปีพี่เขยลุงเปี๊ยก บ้านเลขที่ 141 ม.12 บ้านระเวียง บอกว่า ถ้าติดต่อนายเปี๊ยกได้อยากบอกว่า ให้บอกความจริงไปเลยไม่ต้องกลัว บอกความจริงทุกขั้นทุกตอน อย่ากลัวอะไร ความจริงก็จะปรากฏเอง 


ด้าน นางชญาภา อายุ 63 ปี บ้านเลขที่141 ม.12 พี่สาว ของนายเปี๊ยก ได้จุดธูปเทียน บูชาศาลพระภูมิหน้าบ้าน บอกกล่าวขอให้คุ้มครองน้องชาย อย่าได้รับอันตรายขอให้ปลอดภัย พร้อมได้รับโทรศัพท์ จากญาติที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แจ้งว่า ไม่ต้องเป็นหวงนายเปี๊ยก เพราะนายเปี๊ยก มีผู้หลักผู้ใหญ่ดูแล อยู่ไม่ต้องเป็น หากมีอะไรที่ต้องแก้ไขประสานงานก็จะโทรศัพท์ มาแจ้งให้ทราบต่อไป