วันที่ 16 ม.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัสพรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการขยายผล กรณีนำเข้าหมูเถื่อน หลังส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการ ว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (16 ม.ค.) อธิบดีกรมปศุสัตว์และฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และดีเอสไอ เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังประกาศสงครามปราบหมูเถื่อน เมื่อวันที่  18 ก.ย.66 ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์คนปัจจุบันก็เร่งกวาดล้างจนเกือบเป็นผู้ต้องหา จึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ขอข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ให้นำไปใช้ อย่าไปใช้ข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้กลั่นกรอง และนำมาผสมปะปนกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาห้ำหั่นกันเหมือนในอดีตที่ดีเอสไอเคยถูกกล่าวหา เพราะกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงพี่น้อง ที่สำคัญตนได้รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการอย่างจริงจัง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถเปิดเผยผู้กระทำผิดตัวจริงได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมก่อน เมื่อถามถึงกรณีก่อนหน้านี้ ระบุว่าดีเอสไอมีความล่าช้าในการดำเนินคดีเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจ กับพ.ต.อ.ทวี และรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่าทั้งสองหน่วยงานไม่ได้เข้าใจผิด ไม่มีข้อบาดหมางกัน แต่บางเรื่องเจ้ากระทรวงทั้งสอง ก็ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตัวเอง ส่วนตนต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกร เราเป็นผู้เริ่มต้นกวาดล้างและประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน หากเรื่องใดที่ล่าช้าต้องติดตามพูดคุยระดับเจ้ากระทรวงด้วยกัน และถ้ามีสิ่งใดทำลายภาคเกษตรต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ จะนิ่งเฉยไม่ได้ มิเช่นนั้น จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทั้งนี้ ตนและ พ.ต.อ.ทวี พูดคุยกันทุกวันเข้าใจกันดี หากพบว่าคนของกระทรวงเกษตรฯไปกระทำการที่ล้ำเส้นก็ต้องตักเตือน และในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาล จึงมีความชอบธรรมที่จะตักเตือนหน่วยงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม