วันที่ 16 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ขู่ฟ้องกลับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ตั้งข้อกล่าวหา 2 อดีตรัฐมนตรี และ 2 ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีพบหลักฐานเกี่ยวข้องขบวนการส่งแรงงานไทยเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในงานเก็บผลไม้ป่าในสาธารณรัฐฟินแลนด์ มีการหักค่าหัวคิวเฉลี่ยรายละ 3,000 บาท มูลค่าความเสียหาย 36 ล้านบาท ว่า ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงและหน่วยงานต่างๆแล้ว คดีดังกล่าวเป็นคดีความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวน และมีการแจ้งข้อหาจากทางตำรวจฟินแลนด์

โดยเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย แจ้งให้ทราบว่า มีการสอบสวนของหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งพบมีพยานหลักฐาน และมีพ.ร.บ.ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ ( M Rap) ก็สามารถรับฟังพยานหลักฐานได้ เพราะทางตำรวจฟินแลนด์คงไม่รู้จักคนไทย 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากนั้นทางอัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานสอบสวนร่วมกับดีเอสไอ ได้สอบสวนพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานทางวิทยาศาสตร์ และทั้ง 2 หน่วยมีความเห็นร่วมกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้ตามรายงานยังระบุว่าตำรวจประเทศฟินแลนด์ได้เข้ามาสอบในประเทศไทยหลายครั้ง แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะมีเสียหาย ซึ่งการทำงานของดีเอสไอพยายามยกระดับพนักงานสอบสวน ให้มีความเชี่ยวชาญ โดยยึดถือพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ที่สำคัญคือให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ถูกฟ้องไม่มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นธรรมดา ทุกคดีจะมีลักษณะแบบนี้ เราพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคิดว่ามีพยานหลักฐานอะไรก็ชี้แจงได้ เพราะการสอบสวนของดีเอสไอ ตนได้สั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อพิสูจน์การกระทำผิด และความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา