ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี จับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยางพาราเถื่อน น้ำหนักรวม 3,800 ก.ก. โดยใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง ในการขนขึ้นจากท่าน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำกระบุรี   หลังราคาตลาดกลางยางพาราในประเทศมีราคาสูงขึ้น

วันที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 1300 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พันเอกอภิชัย เรืองฤทธิ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า มีการลักลอบนำยางพาราแผ่นดิบผิดกฎหมาย ข้ามฝั่งจากประเทศเมียนมา ผ่านแม่น้ำกระบุรีมายังฝั่งไทย ในเขตพื้นที่  บ้านน้ำแดง ม.5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง  จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 บูรณาการร่วมกับ จนท.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระนอง ฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรี เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดการลักลอบขนสินค้าการเกษตรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ทันที

​​​​​​จนสามารถตรวจพบว่า บริเวณท่าน้ำของร้านรับซื้อยางพาราในพื้นที่ บ้านน้ำแดง ม.5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง มีการลักลอบนำยางพาราแผ่นดิบ ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุม  ชายขับขี่รถจักรยานยนต์ ซาเล้งสามล้อพ่วงข้าง   ขนยางพาราแผ่นดิบจากท่าน้ำมาเก็บไว้ภายในร้านรับซื้อดังกล่าว โดยที่ริมท่าน้ำ เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ 1 ลำ พร้อมกลุ่มชายชาวเมียนมา  5 คน  ได้ขับเรือหางยาวหลบหนีกลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม  สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมา นายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ที่อยู่ภูมิลำเนา ม.5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง  ซึ่งเป็นคนขับรถสามล้อพ่วงข้างดัดแปลงบรรทุกยางพาราแผ่นดิบ น้ำหนัก 100 กก.  จากนั้นนายหนึ่งฯ ได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในร้านรับซื้อยางพาราดังกล่าว ตรวจสอบพบยางพาราแผ่นดิบเถื่อน น้ำหนักอีก 3,700 กก. รวมน้ำหนักของกลางทั้งสิ้น  3,800 กก.
​​​​​​​
จากการสอบถามนายหนึ่งฯให้การรับสารภาพว่าตนได้ลักลอบ นำยางพาราแผ่นดิบข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจริง ก่อนทำบันทึกจับกุม และส่งตัวให้กับ สภ.กระบุรี  ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป