ผู้บริหาร มรภ.อุดรธานี ยังช็อค ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช. กรณีสอบผู้บริหาร ม.ราชภัฏอุดรฯ ทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ วันนี้ผู้บริหารนั่งโต๊ะแถลงตอบทุกข้อแจงทุกประเด็น ย้ำโครงการที่รับจากกระทรวงอุดมศึกษาฯ ไม่ถึง 1,400 ล้านบาท  และรับอดีตข้าราชการเกษียนต้องผ่านสภามหาวิทยาลัย ตรวจสอบได้ทุกเรื่อง ไม่เข้าใจคนไปร้องต้องการอะไร

วันนี้ (15 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่าสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามกฎหมายของ ป.ป.ช.หรือไม่ กรณีแต่งตั้งอดีตข้าราชการซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้กลับมาเป็นผู้บริหารของมหาลัย และใช้อำนาจในการไปกำหนดภารกิจที่อาจมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

และก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ได้โพสต์แจ้งว่า มีความผิดปกติในการจัดทำโครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ของ ม.ราชภัฎอุดรธานี ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดินไปกว่า 1,400 ล้านบาท เป็นเหตุทำให้ผู้บริหารโครงการฯร่ำรวยเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติหรือไม่ เพราะผู้บริหารบางรายสามารถปลดหนี้สินสหกรณ์ ซื้อบ้านใหม่ ซื้อรถหรู ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้ กรณีดังกล่าว เมื่อเจาะรายละเอียดเข้าไปดูใส้ในของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัย พบความผิดปกติอย่างมากมาย ทั้งการก้าวกระโดดของการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหาร การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ที่อาจไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยอาจมีการเอื้อประโยชน์กันตั้งแต่สภามหาวิทยาลัยไปจนถึงผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน และจัดใช้จ่ายเงินในการจัดทำโครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) โดยยังไม่พบว่ามีการหักเงินเพื่อเป็นรายได้เข้ามหาวิทยาลัยเลยแม้แต่บาทเดียว

ล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค. 67) ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ผศ.ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดี, ผศ.ดร.ชาติชาย ม่วงปฐม รองอธิการบดี, ดร.เอกราช ดีนาง รองอธิการบดี และนายพิเชษฐ์ แย้มโคกสูง นิติกรปฏิบัติการ ได้แถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อสื่อมวลชน จ.อุดรธานีทันที

ผศ.ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดี นั่งโต๊ะแถลงว่า ขอชี้แจงเป็นข้อๆ ตอบทุกประเด็นทั้งโพสต์ของผู้ร้องและผู้ต้องไปยื่นต่อปปช. โดยอธิการบดี กล่าวว่า กรณีที่คุณศรีสุวรรณไปร้อง เราก็มาตอบทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ในสิ่งที่ร้องเป็นเรื่องจริงหรือเกิดจากสาเหตุอะไร เมื่อตรวจสอบเราก็พบว่า สิ่งที่คุณศรีสุวรรณร้องมา ในหลายประเด็นเราได้รายงานต่อสภามหาวิทยาลัยได้รับทราบในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นว่าจะเป็นโครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) เราได้รายงานวิธีการดำเนินการและรายงานต่อสภามหาวิทยาลัยเป็นระยะๆ แต่ประเด็นที่คุณศรีสุวรรณได้รับข้อมูลแล้วไปร้อง ปปช. มองว่ามีสองนัยยะ คือ นัยยะแรกไม่ทราบว่าใครเอาข้อมูลไปให้ผู้ร้องไม่ครบ หยิบบางประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองแล้วเอาไปนำเสนอให้กับผู้ร้อง เมื่อได้ข้อมูลไม่ครบทำให้สื่อความหมายไม่ตรงกับข้อเท็จจริง 

เรื่องที่ 2 ข้อมูลบางอย่างไม่ถูกต้อง เช่น ที่ว่าทางมหาวิทยาลัยฯ ได้รับงบประมาณ โครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) 1,400 ล้านบาท ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งสองโครงการ BCG Model ได้รับงบประมาณจากกระทรวงอุดมศึกษาฯ  โครงการแรก 473 ล้านบาท โครงการที่สอง 117  ล้านบาท วัตถุประสงค์ของโครงการเป็นการจ้างงานฯ นักศึกษาและชาวบ้านในพื้นที่ พอโครงการเสร็จเราได้คืนกระทรวงอุดมศึกษาโครงการแรกคืนไป 28 ล้านบาท โครงการที่ 2 คืนไป 2 ล้านบาท ขอชี้แจงว่า งบประมาณดังกล่าวไม่ใช่เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยฯ ไม่สามารถเก็บเงินหรือหักเข้าเป็นเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยฯได้

ส่วนกรณีที่จ้างบุคคลภายนอกที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ขอชี้แจงว่า อธิการบดีฯ เป็นผู้เสนอ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบสภามหาวิทยาลัยให้ความเห็นชอบ อธิการจะแต่งตัวเองคนเดียวไม่ได้ พอสภามหาวิทยาลัยให้ความเห็นชอบ เราก็มอบหมายหน้าที่ให้ และทางมหาวิทยาลัยฯมีระเบียบรองรับ และหลักเกณฑ์การจ้างบุคลาการที่เกษียนอายุราชการตรงนี้ ต้องผ่านกระบวนการ ไม่ใช่อธิการไปเซ็นแล้วให้มาทำงานได้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้ไหมเป็นการร้องเพื่อให้ผู้บริหารเสียหายในช่วงที่ใกล้หมดวาระของผู้บริหารอีกเวลาปีกว่า อธิการบดีตอบว่าในฐานะอธิการบดีจะพูดอะไรออกไปต้องมีข้อมุลที่ถูกต้อง เราก็มาทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น  มีสิทธิที่อาจจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ก็ได้ เพราะถ้าเราสังเกตในแวดวงสถาบันอุดมศึกษา ก็จะมีเรื่องราวประเด็นแบบนี้ในช่วงใกล้หมดวาระและใกล้ช่วงสรรหาผู้บริหาร แต่ไม่ฟันธงใช่หรือไม่ใช่ เพราะเราจะพูดอะไรต้องมีข้อมูล ที่ได้พูดในวันนี้เป็นข้อมูลจริงที่เคยได้รายงานให้กับสภามหาวิทยาลัยฯ ไปแล้ว หากปปช.มาสอบถามข้อมุลที่พูดทุกอย่างในวันนี้ก็จะเป็นข้อมูลที่ตรงกัน จริงๆ เราเคารพองค์กรที่ทำหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบมหาวิทยาลัย เราพร้อมให้ตรวจสอบ ที่ออกมาชี้แจงครั้งนี้ เพื่อแถลงข้อเท็จจริงและปกป้องมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ไม่รู้ว่ามีเจตนาของคนที่เอาข้อมุลให้คุณศรีสุวรรณต้องการอะไร แต่อยากจะบอกกับคนที่ทำเรื่องนี้อยากให้ตระหนักสำนึกนิดนึง สิ่งที่คุณทำกำลังทำร้ายองค์กรคุณเอง ข้อมูลไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้องเสนอข้อมูลแค่บางส่วน คุณกำลังทำร้ายมหาวิทยาลัย ทำร้ายนักศึกษาและองค์กรของคุณเอง และบุคลากรของเรา

ส่วน ดร.เอกราช ดีนาง รองอธิการบดีฯ ชี้แจงว่า ตามที่ผู้ร้องโพสต์ว่าผู้บริหารร่ำรวยผิดปกติ ถ้าจะหมายถึงผม ผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้ผมจนลงด้วยซ้ำ บ้านหลังใหม่ที่ซื้อธนาคารให้กู้ 4 ล้านบาท ผมผ่อนเดือนละ 19,000 บาท เวลา 30 ปี รถที่ซื้อใหม่เพราะรถคันเก่ามันพัง มาซื้อคันใหม่ ไม่ใช่รถหรู โดยเอาเงินที่เหลือจากกู้ธนาคารมาผ่อน ส่วนลูกที่ไปเรียนต่างประเทศ เป็นการวางแผนของครอบครัวไว้แล้วโดยเอาเงินที่เหลือจากการกู้จากธนาคาร 4 ล้านบาท  ขอเรียนว่าลูกไม่ได้ไปเรียน แต่เป็นการไปแลกเปลี่ยน 10 เดือนแล้วก็กลับมาเรียนที่เมืองไทย รถและบ้านเป็นเงินกู้ธนาคารทั้งนั้น โดยมีคุณปู่ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียน ซึ่งก่อนเข้ารับตำแหน่งผมยื่นทรัพย์สินต่อ ปปช.ไปแล้ว และต้องยื่นทุก 3 ปี จะรวยเพิ่มขึ้นหรือลดลง ไปดูที่ปปช. เรียนตรงนี้ว่าตอนนี้ผมจนลง