วันที่ 12 มกราคม 2567นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางศรีสะเกษเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการที่ได้แต่งตั้งให้มาศึกษาความเป็นไปได้ในการยกระดับพื้นที่ 195 ไร่ ของเรือนจำกลาง เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางเมือง
โดยมีผู้เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆอาทิศาสตราจารย์ ดร.พระเมธีวัชรบัณฑิต (หรรษา ธมฺมหาโส)นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้า ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการ ท่องเที่ยว นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ ผศ.ดร.ประจวบ จันทร์หมื่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและการพัฒนา ว่าที่ร้อยตรี ณทียศ อาจภักดี นักทันฑวิทยาชำนาญการพิเศษ นางอมรรัตน์ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ นายสุขชัย ทองคู่ ผู้แทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด นายกิตติศักดิ์ วิมลสุข ผู้แทนเกษตรจังหวัดผู้แทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวน ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดและคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องจากเรือนจำ มาร่วมระดมความคิดเห็นในที่ประชุมจำนวนมาก ทุกคนได้สะท้อนความเห็นและความเป็นไปได้ในทิศทางเดียวกันว่า พื้นที่ของเรือนจำเป็นป่า และมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก
อีกทั้งในพื้นที่ได้มีการปรับเป็นสวนเกษตรอยู่แล้ว ต่างเห็นชอบให้ยกระดับพื้นที่เป็นสวนเกษตรอินทรีย์ เพราะสามารถนำผู้ต้องขังซึ่งมีจำนวน 1,000 กว่าคน มาพัฒนาความรู้ และทักษะด้านดิน น้ำ ลม ป่า และอาหาร แล้วสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ อาจเป็นแบบโคกหนองนา มีฐานเรียนรู้ให้นักเรียนและประชาชนทั่วไปได้มาศึกษา
โดยจัดสัดส่วนฐานเรียนรู้จากแนวความคิดใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เช่นฐาน”คนเอาถ่าน “ นักท่องเที่ยวต้องมาค้นหาว่า”คนเอาถ่าน”เป็นอย่างไร ฐาน “ดินทองคำ “ ทำอย่างไรดินถึงเป็นทองคำได้ และยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมดำนา ให้อาหารสัตว์ เช็คอินบนสะพานแขวนไม้ไผ่หลากสีเส้นทางปลดปล่อยสู่อิสรภาพ ใครมีเคราะห์ต้องมาขึ้นสะพานนำความทุกข์มาปล่อยลงน้ำ
โดยมีมุมเยี่ยมชมบ้านโบราณ 4 เผ่าไทยศรีสะเกษ 4 หลัง อาจขยายผลให้นักท่องเที่ยวลองเข้าพักเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนโบราณมีห้องน้ำสะอาด ตามจุดต่างๆ มีร้านกาแฟกิ๊บเก๋ ราคาประหยัด พื้นที่ภายในบางส่วน หากมีงบประมาณอาจจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตผู้ต้องขังเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กลุ่มเปราะบางได้มาศึกษาเรียนรู้จากผู้ต้องขัง อันเป็นการเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกแก่เยาวชนและคนทั่วไป ได้รับความสนใจ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เที่ยวได้ทุกวัน