"ศุภมาส“ โชว์ผลงาน 3 เดือนเพียบ ชูสร้างนโยบายใหม่ถูกใจนักเรียน-ผู้ปกครอง-ประชาชน ย้ำ ”เรียนดี มีความสุข มีรายได้ และวิจัยตอบโจทย์“ ด้านอธิการบดี-หน่วยวิทย์ทั่วประเทศ ขานรับนโยบาย อว.ยุคใหม่ ขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย
วันที่ 11 ม.ค.2567 ที่อาคารสามย่านมิตรทาวน์ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงผลงาน 3 เดือน พร้อมวางแนวทางอนาคตของ อว. ในการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ ในงาน ”Future Thailand“ ร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหาร อว. และนักวิจัย กว่า 800 คน โดยน.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนแรก ที่มาบริหารกระทรวง อว. ได้วางแนวทางและขับเคลื่อนแผนงานสำคัญหลายอย่าง ที่ตรงกับความต้องการของนักเรียนนักศึกษา ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการและประชาชน โดยเฉพาะที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือการยกเว้นค่าสมัครทีแคสเข้ามหาวิทยาลัยในรอบแอดมิชชั่นทั้ง 10 อันดับ และการจัดส่งดาวเทียมธีออส-2 ขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ ซึ่งทำให้คนรู้จักกระทรวง อว. อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีผลงานการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมในมหาวิทยาลัยสู่เชิงพาณิชย์ การเริ่มจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคตเพื่อเยาวชนไทยสู่สากล (Futurium) การสนับสนุนสตาร์ทอัพ รถไฟต้นแบบที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย การพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับรถยนต์ไฟฟ้า EV สู่อุตสาหกรรม รวมทั้งการขยายผล AI เพื่อคนไทย หรือ “โอเพ่นไทยจีพีที” และการใช้แอป “ทราฟฟี่ ฟองดูว์” เพื่อแก้ปัญหาประชาชน เป็นต้น“ ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยและหน่วยงานของ อว. ทั่วประเทศที่ร่วมกันสร้างผลงานนี้
“วันนี้ดิฉันได้จัดงาน Future Thailand ขึ้น เพื่อระดมสมอง ความคิดเห็นจากอธิการบดี ผู้บริหารหน่วยงาน อว. และนักวิจัยทั่วประเทศ กว่า 800 คน กำหนดวิสัยทัศน์ แสดงความพร้อมและศักยภาพของ อว. ในการพัฒนาประเทศ งาน Future Thailand เป็นงานที่มองในอนาคตของประเทศไทยโดยการ รับฟังความเห็น สิ่งที่อยากเห็นในอนาคตทั้งจากอาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิจัย นักศึกษา ภาคเอกชนและประชาชน รับข้อแนะนำ ในแนวทางที่จะไปสู่อนาคตจากประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทั้ง 4 กลุ่มมหาวิทยาลัย และ รับทราบ ถึงความพร้อมของบุคลากรของกระทรวง อว. ที่จะไปสู่อนาคต”รมว.อว.กล่าว
น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า แนวทางในการทำงานต่อไปของ อว. ว่าจะมุ่งเน้น “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” และ ”วิจัย นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ” โดยแนวทางในการทำงานในอนาคตประกอบด้วย 9 ประเด็น คือ (1) อยากเรียนต้องได้เรียน, (2) เรียนมีความสุข มีรายได้, (3)วิจัยและนวัตกรรมสำหรับคนไทยทุกคน, (4) อว. แฟร์ มหกรรมสินค้านวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก (5) พิพิธภัณฑ์นวัตกรรมชั้นนำของอาเซียน, (6) หนึ่งอำเภอหนึ่งนวัตกรรม, (7) เปิดศักราชใหม่อุตสาหกรรมอวกาศไทย, (8) อว.ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ระดับโลก (7) กองทุนใหม่ สนับสนุนนักวิจัยและมหาวิทยาลัย
“แต่ละประเด็นมุ่งเน้นนี้ มีแผนงานและหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลัก ทั้งนี้งาน Future Thailand มีท่านอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารหน่วยงานของ อว. ทุกแห่ง มารวมกัน ทุกท่านได้แสดงพลังของ อว. ในการที่จะขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทย และจะเป็นผู้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการดูแลการอุดมศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งตนเชื่อว่า พลังของพวกเราชาว อว. จะทำให้อุดมศึกษา และการวิจัยนวัตกรรมไทยจะพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ” รมว.อว. กล่าว
รมว.อว. กล่าวอีกว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ยังพร้อมจะให้ความร่วมมือสนับสนุนนโยบายกระทรวง อว. ใน 6 ประเด็น คือ1. ปรับการเรียนการสอนโดยเฉพาะในสาขาที่มีความต้องการสูง ให้นักศึกษา สามารถจบการศึกษาได้เร็วกว่า 4 ปี2. ปรับการเรียนการสอนและหลักสูตรที่จำเป็นต่อการทำงานยุคใหม่ เช่น AI, Data Science, Cloud, Coding, E-Commerce เป็นต้น 3. ร่วมกันจัดทำหลักสูตรที่เน้นการเรียนรู้แบบ Experiential Learning และ Entrepreneurial Education เน้นการเรียนคู่กับการปฏิบัติ และสร้างผู้ประกอบการใหม่ เช่น สหกิจศึกษา CWIE บัณฑิตพันธุ์ใหม่ มากขึ้น4. ร่วมกันจัดทำและรับรองทักษะ หรือ skill transcript ระบุทักษะที่นักศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาในแต่ละปี 5. ร่วมกันจัดทำระบบคลังหน่วยกิตกลาง (National Credit Bank) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต Life-long Learning 6. สนับสนุนให้มีการเรียนการสอน ทำวิจัย จัดสรรทุนวิจัย และศูนย์ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า EV รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ใช้ รถ EV โดยเฉพาะรถบัสหรือรถสวัสดิการของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
“ที่น่ายินดี คือ อว. มีบุคลากรคุณภาพที่ได้รับรางวัลต่างๆ จำนวนมาก ดังนั้นในงานยังได้จัดกระทรวง อว. ยังได้จัดเวทีที่ยกย่อง เชิดชู บุคลากรที่ได้รับรางวัล และกำลังจะรับรางวัลสำคัญในอนาคต โดยได้มีการมอบเกียรติบัตรแก่นักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติจาก 6 เวที จำนวน 151 ท่านและมีรางวัลในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาดีเด่นจำนวน 35 ท่าน รวมทั้งแสดงความยินดีกับนักประดิษฐ์ นักวิจัย และหน่วยงานที่ได้รับรางวัลสำคัญอื่นๆ อีกด้วย จากผลงานที่ได้ทำมาในช่วง 3 เดือน และงานที่จะทำต่อไปในอนาคต นโยบายสำหรับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัย รวมทั้งความพร้อมของบุคลากรของกระทรวง อว. ทำให้ดิฉันมั่นใจ และเชื่อมั่นว่า อว. จะเป็นกระทรวงสำคัญในการช่วยพัฒนาอนาคตของประเทศไทย” รมว.อว. กล่าว