เจอตัวแล้วเสี่ยละมัย เสี่ยร้อยล้านกำมะลอ มีดจะปาดคอสาวหม้ายคนรัก ซ่อนตัวในป่าอ้อย 2 วัน 1 คืน อ้างเดินมาขอข้าวกินบ้านเมียเก่า ชาวบ้านแจ้งตร.คุมตัวไป เปิดปากรับสารภาพไม่ได้เป็นเสี่ยร้อยล้าน มีแต่ชาวบ้านพูดเอง ยอมรับมีดปาดคอเมียคนสวยจริง ขอระบายไม่เห็นความดีผัวทำทุกอย่างแม้แต่ซักกางเกงในเมียให้ ขอให้ยืมเงินไปงานศพญาติไม่ให้เลยโมโหแถมเมียด่าเก่งด่าโคตรเหง้าวงศ์ตระกูล แค่ใช้สันมีดปาด หากเมียยังยอมรับจะขอกลับไปคืนดี ขณะที่ป้าอ้อยและพี่ไรรู้ข่าวเดือดจัดพรุ่งนี้จะขอดูหน้าซักหน่อยบอกโกหกแถไปเรื่อย

วันนี้ (10 ม.ค.67) เวลา 19.00 น.ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายละมัย อายุ 54 ปี ชาวต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี อ้างเป็นเสี่ยร้อยล้านมีที่ดิน 400 ไร่มีธุรกิจรถแบ็คโฮ ไปคบกับสาวหม้ายคนหนึ่งที่บ้านดงหวาย แต่ก่อเหตุมีดแทงและปาดคอสาวหม้ายชื่อนางบัวไร อายุ 48 ปี ชาวบ้านดงหวาย ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เหตุเพราะขอยืมเงินไปงานศพญาติที่อุบลไม่ได้ แต่แทงไม่เข้าจากนั้นได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีดำ หมายเลขทะเบียน สิงห์บุรี หลบหนีไป แต่เกิดซิ่งมาด้วยความเร็วแหกโค้งบ้านดงบาตรชนกับเสารั้วบ้านของชาวบ้านจนรถพัง จากนั้นนายละมัยได้หลบหนีเข้าป่าอ้อยพร้อมอาวุธปืน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตร.สภ.บ้านดุงปิดล้อมป่าอ้อยหาตัวยังไม่เจอ

ล่าสุดวันนี้ เวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีชาวบ้านบ้านโนนกกบาท ต.บ้านดุง แจ้งมายังนายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดตว่า พบนายละมัยเดินมามาขอข้าวและน้ำเมียเก่ากินที่บ้านหลังหนึ่งบ้านโนนกกบาท มีท่าทางวิตกกังวล ใส่หมวกปิดบังใบหน้า นายวีระพล จึงได้แจ้งยังไป พ.ต.อ.พงศ์พันธุ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง สั่งให้ตร.สืบสวน คุมตัวมายังสภ.บ้านดุง ทันที

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สภ.บ้านดุง พบกับเสี่ยละมัยร้อยล้านกำมะลอเจ้านี้ โดยเดินทางไปพร้อมกับพระปัญญา พระลูกวัดวัดจันทศรีมงคล บ้านมีชัย ต.บ้านตาด ที่ถูกต้มเอาเงินไป 4,000 บาท เมื่อเสี่ยละมัยเจอพระอาจารย์ปัญญาก็ยิ้มยกมือไหว้ จำครูบาอาจารย์ได้ เสี่ยละมัยบอกว่า หลังขับรถชนต้นไม้ก็ไปหลบในป่าอ้อยไม่ได้ออกไปไหน 2 คืน 1 วัน เพิ่งเดินออกจากป่าอ้อยเย็นที่ผ่านมา เดินเท้าเปล่ากว่า 20 กม.มาหาบ้านเมียเก่า แต่เมียเก่าเขามีผัวใหม่แล้ว จึงได้ขอข้าวหลานๆ กิน   

เจ้าตัวบอกอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับใช้มีดพยายามปาดคอและแทงนางบัวไร ภรรยาของจริง แต่ใช้สันมีด เพราะโมโหที่เขาด่าโคตรเหง้าตระกูล เขาบ่นด่าบ่อย และชอบไปเล่นพนัน ก็เตือนอย่าไปเล่นเรามาสร้างครอบครัวแล้ว หยุดบ้างก็ดี แต่เขาไม่ฟัง ทั้งๆ ที่งานบ้านงานเรือนตนทำให้ ซักเสื้อผ้า ซักกางเกงในเมียก็ทำ อยากสร้างครอบครัว แต่ไม่ชอบที่เขาขี้บ่น

นายละมัยกล่าวตอนท้ายว่า  ผมสึกจากพระเพราะบัวไรเขาเป็นคนติดต่อหาผมตลอดหลังจากที่มีคนแนะนำให้รู้จักกัน บอกให้ผมสึกไปอยู่ด้วย ไม่มีเงินไม่มีทองก็ได้ ผมก็บอกให้บวชก่อน แต่นางบัวไรก็โทรมาคะยั้นคะยอมาเถอะๆ จนผมต้องสึก และเราก็มีอะไรกันตอนที่ผมเป็นนาคอยู่ด้วย หากบัวไรยอมรับให้ผมไปอยู่ด้วยผมก็อยากจะไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเสี่ยร้อยล้านจริงหรือ นายละมัยบอกว่า ไม่ใช่ๆ ผมไม่เคยบอกมีแต่ชาวบ้านพูดเท่านั้น ส่วนที่ว่าผมไปหลอกพระหลายวัดว่าเป็นเสี่ยจะเอารถตู้ไปถวายก็ไม่เป็นจริง แค่ผมยืมเงินพระเท่านั้น ขณะนั้นเองพระปัญญาก็ถามว่า โยมละมัยทำไมพูดโกหกไปเรื่อย รู้อยู่แก่ใจอยู่ แต่นายละมัยก็ยืนยันพูดความจริงไม่ได้โกหกใครทั้งนั้น พระอาจารย์ปัญญาถามว่า แล้วเงิน 4,000 บาทที่เอากับอาตมาไปซ่อมรถให้ อ้างว่าจะถวายรถให้ใช้ นายละมัยก็บอกว่า ผมไม่ได้บอกว่าถวายรถให้ แค่ใช้ร่วมกัน พระอาจารย์เป็นคนให้เงินเอง ดูท่าไม่ยอมรับความจริง พระอาจารย์ปัญญาส่ายหัว บอกอีกว่า โยมละมัยไปหลอกเอาเงินชาวบ้านอีกหลายที่เขาโทรมาบอก นายละมัยก็บอกว่า ไม่ได้เอา ไม่ได้หลอก และโต้เถียงกับพระอาจารย์ปัญญา  อย่ามาพูดแบบนี้ผมไม่ได้หลอกใครทั้งสั้น จากนั้นก็เดินหนีทันที

ขณะที่ป้าอ้อยและพี่บัวไร หลังรู้ข่าวว่านายละมัยถูกจับแล้ว และรู้ว่านายละมัย โกหกแถไปเรื่อยไม่ได้ยอมรับความจริงและอ้างว่าซักผ้าให้เมียทำงานทุกอย่าง ป้าอ้อยและพี่ไรถึงกับโกรธเลือดขึ้นหน้า บอกว่า อย่างนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย แหลไปเรื่อย พรุ่งนี้เช้าจะขอไปดูหน้าชัดที่โรงพักซักหน่อย คนอะไรชั่งโกหกได้เก่งจังทางด้านตร.แจ้งข้อหานายละมัย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เตรียมส่งศาลดำเนินคดีพรุ่งนี้ตอนเช้า