หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ.2567 ชีวิตที่ต้องเดินหน้าต่อไป ...*...
“บารอน” สัญจรช่วงหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ไปหลายวัน ขอใช้บรรทัดนี้ “สวัสดีปีใหม่” แด่ ผู้อ่านสยามรัฐ ผ่านสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง คิดหวังสิ่งใดในทางที่ถูกที่ชอบขอให้สมหวังทุกท่านครับ ...*...
ประเดิมรับปีมังกรทอง ใครจะครองเก้าอี้ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ ที่ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ที่เกษียณไปตั้งแต่ วันที่ 9 กันยายน ปีที่แล้ว ใช้อำนาจรักษาการประธานศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวันเลือกตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ ใน วันพุธที่ 10 นี้ โดยให้สิทธิ์ นายสุเมธ รอยเจริญกุล ที่ วุฒิสภามีมติเสียงข้างมาก 207 เสียง ต่อ 3 เสียง เห็นชอบ ให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ สามารถ เข้าร่วมประชุมเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญได้เลย ...*...
9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มสายศาลปกครองสูงสุด กับ กลุ่มสายศาลฎีกา และ กลุ่มสายรัฐศาสตร์ ที่จับกุมกันเหนียวแน่นที่สุด คือ กลุ่มสายศาลปกครองสูงสุด ที่ครั้งนี้ส่ง นายปัญญา อุดชาชน ลงสนาม ชิงเก้าอี้ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ โดยมี คู่แข่ง คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ที่มาจาก สายศาลฎีกา แต่ดูจากหลักเกษณ์ที่เคยกำหนดไว้ว่า ให้ผู้อาวุโสเกษียณก่อน ก็ค่อนข้างแน่นอนครับว่า นายปัญญา อุดชาชน ที่ จะเกษียณในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะก้าวขึ้นเป็น ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ ...*...
มี 3 คดีใหญ่ต้อนรับประธานศาลรัฐธรรมนูญใหม่ทันที คือ วันพุธที่ 17 นี้ จะมีการ วินิจฉัยคำร้อง ของ สส.ก้าวไกล เรื่อง กล่าวหา ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ชุกหุ้น อีกสัปดาห์ถัดไป วันพุธที่ 24 นี้ วินิจฉัยในคดี ถือหุ้นสื่อ ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ วันพุธที่ 31 นี้ จะวินิจฉัยว่า พรรคก้าวไกล เข้าข่ายการใช้ ม.112 หาเสียงอย่างต่อเนื่อง เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯหรือไม่ ...*...
“บารอน” ไม่สามารถก้าวล่วงคำวินิจฉัยได้ แต่ดูโหงวเฮ้ง ของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หน้าตาสดใส งานนี้มีเฮ ตรงข้ามกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน้าตาหมองคล้ำ งานนี้มีโฮ ส่วน คดีพรรคก้าวไกล ดูสีหน้า นายชัยธวัช ตุลาธน คนเป็นหัวหน้าพรรค ออกอาการชักไม่แน่ใจเท่าไรนัก ...*...
อ้าว? ชื่อ ดร.วิษณุ วรัญญู อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ผ่านการสรรหา จาก คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองสูงสุด ให้ขึ้นเป็น ประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ ที่ส่งผ่านให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อไปให้ วุฒิสภาเห็นชอบ นานกว่าสองเดือนแล้ว ยังไม่มีคำตอบลงมา ประสา บารอน หาข่าว นายกฯเศรษฐา ยังไม่ส่งผ่านไปยังวุฒิสภาเลยครับ จะระงับยับยั้งไว้ทำไม? ...*...
บารอน ฟังมาจากหลายเสียงหลายทาง ดร.วิษณุ วรัญญู สำเร็จปริญญาเอกทางกฎหมายจากฝรั่งเศส หรือที่เรียกกันว่า “ดร.อังดรัวส์” ผ่านการเป็น คณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มีความสามารถในวิชากฎหมายมหาชน ได้ชื่อว่า เป็นคนเก่งทางนิติศาสตร์คนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เหมาะสมกับตำแหน่ง ประธานศาลปกครองสูงสุดแล้วครับ ...*...
แต่ที่ บารอน ไม่เข้าใจ ในเมื่อ คณะกรรมการตุลาการปกครองสูงสุด ทำการ สรรหาประธานศาลปกครองสูงสุดได้แล้ว ใยต้องส่งผ่าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปยังวุฒิสภาให้ความเห็นชอบอีก ทั้งๆที่ องค์กรศาลปกครองสูงสุดมิใช่องค์กรอิสระ มีสถานะ เป็นสถาบันยุติธรรม เฉกเช่นเดียวกับ ศาลฎีกา และ เป็นองค์กรให้คุณให้โทษนักการเมืองได้ แต่ ต้องให้วุฒิสภา ซึ่งก็คือ การเมือง นั่นเอง เห็นชอบ รู้สึกว่า ย้อนแย้งกันนะครับ ...*...
พวกมากลากไป แล้ว พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 ที่ เพิ่งผ่านการพิจารณา ในวาระ 1 ไปเรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทย ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ แม้กระทั่ง 3 เสียง ของ พรรคไทยสร้างไทย ที่ เป็นพรรคฝ่ายค้าน จะฝืนมติพรรคมติวิป ยกมือให้การสนับสนุน ไม่มีใครเป็นงูเห่าดอกครับ เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมืองในพื้นที่ ถึงอย่างไรเสียงข้างมากของรัฐบาลก็ชนะแบบท่วมท้นอยู่ดี ...*...
แต่ที่ บารอน ถึงบางอ้อ ทำไม รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ถึง ไม่เร่งรีบนำร่าง พ.ร.บ.เข้าสภาฯพิจารณา ปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่า 3 เดือน เพิ่งจะผ่านวาระ 1 ต้องผ่านขั้นตอน การตั้งกรรมาธิการ ใน วาระ 2 วาระ 3 และ ยังต้องผ่านวุฒิสภา กว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ใช้งบประมาณปี 2567 ได้ โน่น ปลายเดือนเมษายนนี้ เท่ากับ งบประมาณแผ่นดิน 3.48 ล้านล้านบาท ต้องใช้ภายในเวลาที่เหลือ 5 เดือนเท่านั้น ...*...
งบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ที่ มีกำหนดเวลาใช้ 12 เดือน หดสั้น เหลือ 5 เดือน เท่ากับ ต้องเร่งการใช้งบประมาณ ทำให้ เกิดช่องว่างของการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะ วิธีการจัดจ้างจัดซื้อ ก็ต้อง จัดจ้างจัดซื้อในวิธีพิเศษ เพื่อ ให้ทันใช้ปีงบประมาณ ที่เหลือเวลาจำกัด 5 เดือน ขืนใช้วิธีปกติ ตามขั้นตอนของวิธีการจัดจ้างจัดซื้อ หมดเวลาปีงบประมาณพอดี งานนี้ แฮปปี้กันถ้วนหน้า
