เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 9 ม.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม.ยังไม่มีการพิจารณาถึงร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน เพื่อมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งความเห็นมายังรัฐบาล เพราะต้องเสนอผ่าน คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ตนเป็นประธานก่อน โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังกำลังดูเวลาอยู่ 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในตารางการประชุมของตน เมื่อถามว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนหนึ่งพูดถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงินที่ต้องเป็นไปตามระเบียบการเงินการคลัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกัน 

 

เมื่อถามว่า มองว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกามีความชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ได้ นายกฯ กล่าวว่า ตนอยากจะฟังความเห็นของทุกๆฝ่ายด้วย  เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาบอกมาให้ฟังความเห็นของทุกๆฝ่ายที่ต้องมีความเห็นของ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตทุกคน ต้องให้ความสำคัญกับทุกเสียง 

 

เมื่อถามว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้มีความชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ได้ใช่หรือไม่ ในความรู้สึกของนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้บอกว่าทำได้หรือทำไม่ได้ เป็นเรื่องของดุลพินิจและต้องรับฟังความคิดเห็น ถึงบอกว่าจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการ 

 

เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องรัฐบาลเปิดคำถามและคำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาสมควรก็จะเปิดเผย 

 

เมื่อถามว่า แสดงว่าเรื่องนี้จะต้องใช้ระยะเวลาไปอีกสักระยะ นายกฯ กล่าวว่า ต้องประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนนั่งเป็นประธานก่อน อย่างที่ตนได้เรียนให้ทราบ ยังไงก็ต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ เพราะมีหลายฝ่ายร่วมอยู่ และต้องมาแสดงความคิดเห็น

 

เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวนายกฯ มั่นใจว่าเรื่องนี้เดินไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไปต่อได้แน่นอนครับ ชัดเจนครับ และต้องขอประชุมคณะกรรมการดิจิทัลก่อน และจะตอบเนื้อหาที่หลัง เมื่อถามว่า จะทันเดือน พ.ค.67 หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ณ เวลานี้ยังยืนยันตามไทม์ไลน์เดิม แต่ต้องขอประชุมก่อน ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะอะไรอีกหรือไม่ อย่างที่บอกนัยสำคัญของกฤษฎีกาคือต้องฟังความคิดเห็นของทุกๆ ฝ่าย 

 

เมื่อถามว่า ยืนยันการออกเป็นพระราชบัญญัติจะทำได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยืนยันถ้าออกก็ออกเป็นพระราชบัญญัติ เมื่อถามว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ทำให้เกิดความหนักใจอะไรใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกเรื่องมีความหนักใจหมดเพราะต้องดูเรื่องของความถูกต้อง ความครบถ้วนในแง่ของการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย 

เมื่อถามว่า ความเห็นที่แตกต่างของนายกฯ และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่วนหนึ่งมองว่าอาจมีผลกระทบต่อนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คนอยู่บ้านเดียวกันเห็นไม่ตรงกันก็หลายอย่าง ตนว่าอยู่ในสังคมเดียวกันเชื่อว่าหลายๆท่านมีจุดประสงค์เดียวกันคืออยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่เรื่องของการปฏิบัติงานหรือเรื่องนโยบายต่างๆอาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องมีการพูดคุยกัน 

 

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเชิญผู้ว่า ธปท. มาพูดคุยกันเหมือนช่วงแรกๆหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ยังยืนยันและขอบคุณที่สื่อมวลชนบอกว่าไหนบอกจะมีการพูดคุยกันทุกๆเดือน แต่รู้สึกว่าเดือน ธ.ค.ไม่ได้พูดคุยกันแต่ก็มีการยกหูโทรศัพท์คุยกัน ขอบคุณที่เตือนมา ตนก็ได้นัดไปเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งท่านก็ตอบรับโดยดีไม่ได้มีเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน 

 

“แน่นอนไม่ปฏิเสธว่า ต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง ผมเชื่อว่าท่านก็เห็นตรงกับผมบางเรื่อง ผมก็เห็นตรงกับท่านบางเรื่อง แต่บางเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันก็ต้องมาพูดคุยกันและเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปเยอะ ก็เป็นหน้าที่ผมที่จะต้องโน้มน้าวความคิดเห็นของท่านว่าเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ตรงนี้มองว่าเป็นการอยู่ร่วมกันเป็นธรรมดาก็ต้องมีการพูดคุยกัน” นายกฯ กล่าว 

 

เมื่อถามถึง กรณีเอกชนเริ่มเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยววันที่ 10 ม.ค.จะมีการพูดคุยกับรมช.คลัง และผู้ว่าฯ ธปท. ในเวลา 13.30 น. ซึ่งจะมีการพูดคุยกันหลายเรื่องๆ เป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญและนำข้อมูลมาหยิบยกกัน