เศรษฐา ลั่นพร้อมให้ ส.ว.อภิปรายรัฐมนตรี ระบุเป็นหน้าที่ฝ่ายบริหาร หากฝ่ายตรวจสอบต้องการความกระจ่าง ไม่มีปัญหาแม้ทำงานมาแค่ 4 เดือน ยัน 3 รมต.เพื่อไทย ลาออกจากส.ส. ไม่กระทบงาน ไม่มีนัยการเมือง ด้านสว.กิตติศักดิ์ เอาด้วย ซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ขณะที่'อนุทิน'ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณปรับครม. รอนายกฯ แจ้งวันนัดกินข้าวพรรคร่วมรัฐบาล 

    
 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 เวลา 09.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 3 รัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) จะกระทบกับการทำงานของรัฐบาลใช่หรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี เชื่อว่าการทำหน้าที่รัฐมนตรีจะดีขึ้น เพราะท่านได้ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารอย่างเต็มที่ตามที่นายสมศักดิ์ได้พูดไปว่างานตามกระทรวงต่างๆ ก็เยอะอยู่แล้ว ไม่มีนัยอะไร เพราะเป็นเรื่องของการทำงานเพียงอย่างเดียว

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ส.ว.บางส่วนอยากเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 แบบไม่ลงมติ ในส่วนของคณะรัฐมนตรี  มีความพร้อมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ถ้าเกิดฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายตรวจสอบต้องการความกระจ่าง หรืออะไรก็ต้องชี้แจง ซึ่งเป็นไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า ระยะเวลาในการบริหารประเทศมีเพียงแค่ 4 เดือน คิดว่าเร็วไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถือว่ามันเป็นหน้าที่ ไม่เกี่ยวกับจำนวนเดือน หรือจำนวนวัน ซึ่งมีความพร้อม และยินดี
    
 ด้าน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวถึงการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ว่า ในช่วงบ่าย จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ก็น่าจะมีข้อยุติ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องระยะเวลาในการทำงานไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่กี่วัน หากทำไม่ดี ก็มีค่าเท่ากัน ดังนั้นจะมาบริหาร 3-4 เดือน หรือ 3-4 ปี ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาลว่า บริหารประเทศชาติได้ดีหรือไม่
    
 นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกันกับเพื่อน สว. ก็เห็นว่าพฤติกรรมของรัฐบาลในขณะนี้มีเสียงสะท้อนเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังไม่มีใครตอบคำถามพี่น้องประชาชนที่สงสัยได้เลย ดังนั้น สิ่งที่ยังปกปิดอยู่จะต้องมีความชัดเจนต่อประชาชนให้ได้ จากการลงพื้นที่พบประชาชนที่ค้าขายกำลังจะตายแล้ว จากที่ไม่เคยค้างค่าเช่า เกือบทุกจังหวัดกลายเป็นหนี้แล้ว ไม่มีเงินจ่ายค่าแผง จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลด้วย
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะเกิดข้อครหาหรือไม่ เพราะส.ว.ไม่อภิปรายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กลับอภิปรายรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่บริหารประเทศมาเพียง 4 เดือน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ก็เทียบกันได้ แต่คิดว่าถ้าด้วยความเป็นธรรม ตอนนี้ผลงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 8-9 ปีที่ผ่านมาได้เกิดมรรคผลอะไรบ้าง ในขณะที่รัฐบาลของนายเศรษฐา 3-4 เดือนที่ผ่านมาทำอะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์จับต้องได้บ้าง
   
  ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับความเห็นของกระทรวงการคลัง กรณีการออกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการแจกเงินผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ยังไม่เห็นความเห็นของสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่เราพร้อมทำตามนโยบายของรัฐบาล หากเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายและทำได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ต้องสนับสนุนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล
   
  นายอนุทิน กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เบื้องต้น กำหนดจัดในวันที่ 25 ม.ค.นี้ แต่นายกฯ มีภารกิจด่วน จึงอาจเลื่อนออกไป ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ยังไม่ทราบ จึงต้องรอให้นายกฯแจ้งกลับมาก่อน เมื่อถามว่า จะเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การเชิญบุคคลมาร่วมงานให้เป็นหน้าที่ของเลขาธิการนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการเชิญ ตนเป็นเพียงเจ้ามือ ไม่ใช่เจ้าภาพ
   
  ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณอะไรมา และยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันเวลานี้นายกฯมีความเข้าใจและมั่นใจเรื่องงานในระบบรัฐสภามากขึ้น และมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนนโยบายของนายกฯ และรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯขณะนี้มีความมั่นคง จากนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุนให้นโยบายของรัฐบาลประสบความสำเร็จซึ่งเป็นผลดีต่อบ้านเมือง เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลยังดีอยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แหม ไม่อยากโชว์รูปเลยว่าใครมากอดคอผม
    
 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็น เรื่องที่ก.คลังหารือพรบ.กู้ 5 แสนล้านให้นายกฯ แล้ว ระบุนโยบายแจกเงินดิจิทัล1หมื่น ไม่ขัดอะไร พร้อมเตรียมนำเข้าหารือในครม. ว่า ทราบจากข่าวที่นายกฯ ระบุกฤษฎีกาได้ส่งความเห็นและข้อเสนอแนะมาที่นายกฯ แล้ว ซึ่งคงต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่ารายละเอียดที่กฤษฎีกาส่งมาให้นั้นเป็นอย่างไร และจากนั้นคงมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องนำเอาความเห็นของกฤษฎีกานั้นไปพิจารณาและนำมาพูดคุยกันว่าจะมีแนวทางอย่างไร
     
  หากเรายังไม่ได้เห็นข้อคิดเห็นหรือข้อแนะนำของกฤษฎีกา คงจะยังพูดอะไรมากไม่ได้ จึงอยากจะดูก่อนว่าสิ่งที่กฤษฎีกามีข้อคิดเห็นมานั้น มีแนวทางเช่นไร เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครทราบ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีข้อเสนอแนะ หรือข้อถกเถียงกันในข้อคิดเห็นดังกล่าวอย่างไรบ้าง "นายวราวุธ กล่าว
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็ต้องพยายามผลักดันให้สำเร็จใช่หรือไม่  นายวราวุธ กล่าวว่า แน่นอน และที่สำคัญหากผลักดันได้สำเร็จก็จะเป็นประโยชน์ของประชาชน แต่จะต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายในการดำเนินการด้วยจึงเป็นที่มาของการขอความเห็นจากกฤษฎีกา ดังนั้นต้องรอดูความชัดเจนในข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นของกฤษฎีกาก่อนว่าเป็นอย่างไร