สองโรงพัก แย่งกันทำงานทำวุ่นทั้งวันหลังพบศพหนุ่มนอนแผ่หราดับปริศนาในร่องกลางถนนสาย 331 กบินทร์บุรี-สัตหีบ บนพื้นที่คาบเกี่ยว 2 อำเภอ 2 โรงพัก ทำ จนท.กู้ภัยมึนตึ๊บ ต้องขนศพกลับมานอนกางในท่าเดิมใหม่เพื่อให้ทาง จนท.ตำรวจอีกโรงพักเข้าตรวจสอบชันสูตรอีกครั้ง สุดท้ายให้นำกลับไปเก็บไว้ยังที่เดิม

วันที่ 6 ม.ค.67 เวลา 10.30 น. ร.ต.อ.อรรถพันธ์ คชสีห์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิตภายในร่องกลางถนน ในลักษณะนอนหงายกางแขนและขาชี้ออกไปจากลำตัว และมีคราบเลือดไหลออกจากใบหูทั้งสองข้าง ที่บริเวณภายในร่องกลางถนนขนาด 4 ช่องจราจร ใกล้กับสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ก่อนถึงหน้าวัดเขาสุวรรณคีรีประมาณ 200 เมตร พื้นที่ ม.7 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบร่างชายหนุ่มวัยกลางคน สวมเสื้อยืดสีเทาคอกลมห่วงคอและปลอกท่อนแขนสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น 3 ส่วนสีดำพับปลายขาขึ้นมาเป็นชายขอบทั้ง 2 ข้าง สวมถุงรองเท้าสีขาวทั้ง 2 ข้างไม่พบรองเท้า และพบโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน พร้อมกระเป๋าเดินทางลักษณะเป้สะพายสีดำตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณปลายมือซ้ายของผู้เสียชีวิตยังคงกำสายสะพายกระเป๋าติดมือไว้แน่น

นอกจากนี้ยังพบแผนยางลักษณะคล้ายชายบังโคลนล้อรถยนต์ มีตรา NOR ตกอยู่ 1 แผ่น หลังการตรวจสอบภายในกระเป๋าเป้สะพายพบหลักฐานเป็นสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และสมุดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ ระบุชื่อนายสมบัติ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.3 ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีษะเกษ โดยในสมุดคู่มือจดทะเบียนประจำรถ ยังระบุว่า เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า แบบรุ่น M-SLAZ   รุ่นปี ค.ศ.2017 ขนาด 150 ซีซี แต่ไม่พบตัวรถจักรยานยนต์อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และนำศพส่งไปให้แพทย์ รพ.แปลงยาว ทำการชันสูตรอีกครั้ง

แต่ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.48 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.หนองแหน เดินทางมาตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ ม.7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับได้ขอให้ทางหน่วยกู้ภัย นำศพออกมาจาก รพ.แปลงยาว และนำกลับมาวางกางไว้ในท่าเดิมอีกครั้ง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่จาก สภ.หนองแหน พร้อมพนักงานสอบสวนทำการชันสูตรพลิกศพใหม่

และหลังจากทำการตรวจสอบจุดตัดพื้นที่ระหว่าง 2 อำเภอ และชันสูตรพลิกศพใหม่อีกครั้งแล้ว จึงยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพนมฯ นำศพกลับไปเก็บไว้ยังที่ รพ.แปลงยาว อีกครั้ง เพื่อรอติดตามหาญาติให้มาติดต่อขอรับศพต่อไป โดยในขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำศพส่งไปทำการผ่าพิสูจน์ทางนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากยังคงต้องรอให้ทางญาติเดินทางมาตัดสินใจ หากยังคงติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป