แม่เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ร้องสายไหมต้องรอด ขอความเป็นธรรม ลูกสาวถูกรถชนเสียชีวิต แต่คดีไม่คืบ ทั้งที่มีวงจรปิด วอนผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบ

นางสาวดอกรัก ชาวนา อายุ 34 ปี ร้องขอความเป็นธรรมเพจสายไหมต้องรอดจากกรณีลูกสาว วัย 4 ขวบถูกรถชนเสียชีวิตบริเวณหน้าหมู่บ้านมหาลาภ เขตหนองจอกกรุงเทพฯ  ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม 2566  ผู้ก่อเหตุหลบหนีและคดีความยังไม่คืบหน้า  โดยมีภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุอย่างชัดเจน 

นางสาวดอกรัก  ซึ่งเป็นคุณแม่ผู้เด็กหญิงผู้เสียชีวิต เล่าว่าวันดังกล่าวตนได้จูงมือลูกสาวเดินข้ามถนนเพื่อไปซื้อขนมอีกฝั่ง ในระหว่างเดินข้ามถนนกลับปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนุึ่งพุ่งชนลูกสาวกระเด็นหลุดจากมือ โดยตนจูงมือลูกสาวอยู่ด้านซ้ายมือ แต่รถขับมาด้านขวามือผ่านตนเองไปแล้วชนลูกสาว ทำให้ตนข้องใจว่าเหตุใดขับรถอ้อมตนไปแล้วชนลูกสาวทั้งที่ตนเองยืนบังอยู่  หลังชนก็ได้ขับรถหลบหนีโดยไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่ลูกสาวนอนชักอยู่กลางถนน ตนจึงร้องขอความช่วยเหลือคนที่อยู่บริเวณนั้น  โดยลูกสาวนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 วันก่อนเสียชีวิต 


คุณแม่น้องผู้เสียชีวิตได้ยกมือไหว้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่าตนอยากให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบ เพราะตนอยากเห็นหน้าและสอบถามว่าชนน้องทำไม โดยตนมีลูกสาวเพียงคนเดียว  ทั้งนี้ได้สอบถามคดีไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก  วันแรกของการเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกว่าทราบเบาะแสรถของผู้ก่อเหตุแล้ว เป็นรถเก๋งสีดำ แต่ต้องขอเวลาสืบ แต่เมื่อทวงถามจนถึงถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าโดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ 

นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้เพจสายไหมช่วยเหลือเพื่อที่จะให้มีการเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว  ขณะนี้ได้มีการติดต่อไปยังประสานผู้กำกับทสน.หนองจอก ติดตามความคืบหน้า เนื่องจากมีคลิปหลักฐานชัดเจน พร้อมจะนำผู้เสียหายไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยค่าเสียหาย