ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พร้อมด้วย นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย นางแสงเดือน อ้องแสนคำ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) และ ดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาลกุล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ด้านปฏิบัติการและบำรุงรักษา) พร้อมด้วยผู้บริหารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ร่วมตรวจความพร้อม ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในการรองรับการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร พร้อมทั้งตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยาน เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้โดยสาร

โดย ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศ ในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 4 มกราคม 2567 มีจำนวนเที่ยวบิน 276 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 39 เที่ยวบิน มีจำนวนผู้โดยสาร 39,561 คน หรือเฉลี่ยวันละ 5,652 คน ด้านการอำนวยความสะดวก ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเพียงพอต่อการให้บริการ โดยเพิ่มความถี่ในการกำกับดูแลความเรียบร้อยของอาคารสถานที่ รวมถึงได้จัดเจ้าหน้าที่สำหรับให้คำแนะนำวิธีการการใช้ระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS: Common Use Self Service) ให้กับผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเช็กอินผ่านเครื่อง KIOSK ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการเช็กอิน และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร ซึ่งพบว่าไม่มีจุดใดที่มีระยะเวลาการรอคิวนานเกินกว่าค่ามาตรฐาน Level of Service (LOS) ตามที่ IATA กำหนดอีกทั้ง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้จัดเตรียมน้ำดื่มตราสัญลักษณ์ ให้บริการประชาชนฟรี ณ บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

ในด้านการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 (Passenger Facilitation Center)” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือระหว่างส่วนงานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดการเดินทางของผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการ รวมทั้งรับแจ้งเหตุฉุกเฉินปัญหาข้อขัดข้องในการเดินทาง และได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตระเวน เจ้าหน้าที่ทำลายวัตถุระเบิด (EOD) เพิ่มความถี่ในการตระเวนตรวจพื้นที่ เพื่อความเรียบร้อยภายในท่าอากาศยานอย่างเต็มกำลัง


  
ทั้งนี้ดร.กีรติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย  ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ให้ดูแลและใส่ใจการให้บริการผู้โดยสารให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านความสะดวก ปลอดภัย และความรวดเร็วของกระบวนการผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก อีกทั้งกระบวนการเช็กอินและความพร้อมของระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service : CUSS)เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารในการลดระยะเวลารอคอย ตลอดจนการบริหารจัดการพื้นที่พักคอยผู้โดยสารให้เพียงพอ  
 
อีกทั้ง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเตรียมความพร้อมตอบสนองต่อทุกเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุการณ์จากกรณีเครื่องบินของ สายการบิน เจแปนแอร์ไลน์ (JAL) เฉี่ยวชนกับเครื่องบินของหน่วยยามชายฝั่งญี่ปุ่น เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้เครื่องบินบนทางวิ่ง (รันเวย์) ณ สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งดำเนินการศึกษาข้อมูล และเตรียมมาตรการป้องกันภัย โดยนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาใช้ในการวางแผนกำหนดหัวข้อในการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน เพื่อไม่ใหเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย รวมถึงท่าอากาศยานที่อยู่ในการกำกับดูแลของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) AOT ขานรับนโยบายของกระทรวงคมนาคม “เดินทางทั่วไทย คมนาคมสะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” โดยมีความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้เดินทางอย่างเต็มกำลังความสามารถ มุ่งเน้นในด้านความปลอดภัยและความรวดเร็ว

โดย ดร.กีรติ  กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสาร ที่มีอายุอายุการใช้งานมานาน นอกจากนี้ในอนาคตทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เตรียมที่จะมีการพัฒนาจุดพักคอยผู้โดยสาร มากขึ้นโดยตามแผนจะดำเนินการพัฒนาหนองน้ำซึ่งอยู่ในท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ให้ผู้โดยสารสามารถใช้พักผ่อนรอการเดินทางได้ ซึ่งจุดนี้เป็นผลดีต่อการดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานฯ