คุมตัวโจรสาวประเภทสองบุกเดี่ยวใช้มีดชิงทองร้านทองในห้างที่สะเดา ไปทำแผน ร่ำให้สำนึกผิด เผยเป้าหมายจริงเป็นร้านทองที่หาดใหญ่ เหตุที่ลงมือที่สะเดาเพราะอยู่ใกล้

    วันนี้ (5ม.ค.67) ความคืบหน้าเหตุโจรสาวสองบุกเดี่ยวใช้มีดเป็นอาวุธชิงทอง กลางห้างดัง ใน อ.สะเดา จ.สงขลา ได้สร้อยคอทองคำหนัก 24 บาท และถูกจับได้เมื่อนี้หลังจากหนีมากบดานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่

     ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้(5ม.ค.67) พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ได้คุมตัว นายปรีชา อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยก่อนพาตัวไปทำแผนได้มีการแถลงชี้แจงรายละเอียดของคดีนี้พร้อมกับ นำนายปรีชา มาขอโทษกับทางตัวแทนร้านทอง ซึ่งนายปรีชา ที่มาในชุดเสื้อเกาะอกสีขาวสวยงามเหมือนกับผู้หญิงสำนึกผิดร่ำให้และพูดเพียงสั้นๆขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ขณะที่ทางตัวแทนร้านทองได้นำกระเช้ามาแสดงความขอบคุณตำรวจ สภ.สะเดาที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

    ด้าน พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา กล่าวถึงคดีนี้่ว่า หลังตำรวจรับแจ้งเหตุซึ่งเกิดขึ้นเวลา 17.30 น.ก็ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทันที แต่ว่าตอนแรกมีการแจ้งรถเป้าหมายผิดคันว่าเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CPX แต่จริงๆและเป็นรถฮอนด้า GPX และคนร้ายน่าจะขับผ่านด่านตรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างด้วยซ้ำ แต่เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจึงรู้รถเป้าหมายและตำหนิรูปพรรณคนร้าย และสอบสวนขยายผลทราบว่ายืมมาจากพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทย มาเลเซีย และนำไปสู่การแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายซึ่งได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.สะเดา ไปยัง อ.หาดใหญ่ ในเวลา 18.40 น.และตำรวจติดตามจับกุมได้ในเวลา 23.30 น.

     ผกก.สะเดา กล่าวว่า จริงๆแล้วคนร้ายไม่ได้ตั้งใจจะชิงทรัพย์ร้านทองร้านนี้เพราะในโทรศัพท์มือถือเป็นเป้าหมายร้านทอง ที่ อ.หาดใหญ่ แต่เหตุที่ลงมือที่ร้านทองในห้างที่สะเดา เพราะว่าอยู่ใกล้ และเดิน เข้าออกดูลาดเลา 2 รอบ ประกอบกับอยู่หน้าห้องน้ำลงมือสะดวกจึงลงมือก่อเหตุ

    และคดีนี้ลงมือเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆทั้งเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ขับมาก่อเหตุ และเจ้าของรถเก๋งที่ขับพาไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

    ส่วนแรงจูงใจผู้ต้องหาอ้างว่ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานต้องการหาเงินที่จะกลับไปแก้แค้น แต่ในรายละเอียดว่าจะมีปัญหากับใครนั้นไม่ขอเผยเพราะเป็นเรื่องของผู้ต้องหา

    จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนและงานป้องกันปราบปราม สภ.สะเดา และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้นำตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากจุดแรกซึ่งเป็นร้านขายตั๋วโดยสารเดินทางเข้ามาเลเซีย ที่ด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย ที่นายปรีชา ไปซื้อตั๋วรถโดยสารไปยังมาเลเซีย และยืมรถจักรยานยนต์จากญาติของเจ้าของร้านขายตั๋วอ้างว่าจะขับไปทำธุระ 15 นาที

   จุดที่ 2สองเป็นร้านโทรศัพท์มือถือซึ่งนำโทรศัพท์มือถือไอโฟน 12 ไปจำนำ

    จุดที่ 3 ขณะเข้าไปก่อเหตุภายในร้านทองในห้างสรรพสินค้าที่ อ.สะเดา ทั้งตอนที่เดินเข้าไปในห้าง ก่อเหตุชิงทอง และขับรถจักรยานยนต์หลบหนี

จุดที่ 4 ขับรถ จยย.ไปจอดทิ้งไว้บนถนนภายในซอย กาญจนวนิชย์ ซอย20/1 เขตเทศบาลเมืองสะเดา

จุดที่5 เป็นถนนสายเลี่ยงเมืองสะเดาที่เดินออกมาและว่าจ้างชาวบ้านให้ขับรถเก๋งไปส่งที่ อ.หาดใหญ่

โดยตลอดการทำแผนทั้ง 5 จุดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นและกลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านโดยเฉพาะตอนที่พาไปทำแผนชิงทองในห้างโลตัส และเป็นข่าวดังที่เกิดขึ้นใน อ.สะเดา

  หลังเสร็จจากการทำแผนตำรวจได้คุมตัว นายปรีชา กลับมายัง สภ.สะเดา เพื่อดำเนินการส่งตัวไปฝากขังที่ศาล จ.นาทวี ต่อไป